“เตือนภัยหญิง”เที่ยวปีใหม่ “อย่าประมาท”


 อันตรายเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา

  

“เตือนภัยหญิง”เที่ยวปีใหม่ “อย่าประมาท”  

            ใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าตอนรับ ปีใหม่ วันหยุดยาวที่ทุกคนรอคอยกำลังจะมาถึงอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสนาน เฮฮา ปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือในแบบฉบับครอบครัว แต่ภายใต้ความสนุกในช่วงเทศกาลนี้ ผู้หญิงหลายคนมักตกเป็นเหยื่อ ของเหล่ามิจฉาชีพที่มาในหลายรูปแบบโดยเฉพาะ ผู้ที่แต่งตัวดีแต่ประสงค์ร้ายคุกคามความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้

 

           จากข้อมูลสถิติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปี 2552 ปรากฏมีคดีข่มขืนเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 12-13 ราย หรือทุกๆ 2 ชั่วโมง เกิดเหตุผู้หญิงถูกข่มขื่นมากที่สุด แสดงให้เห็นว่าอาชญากรยังคงมีการกระทำผิดอยู่ตลอดเวลา ด้วยพฤติกรรมการฉุดคร่า ชิงทรัพย์ ล่อลวง วางยานอนหลับ ที่นำไปสู่การข่มขื่นบางครั้งรุนแรงถึงขั้นฆ่าปิดปาก

 

           เมื่ออันตรายเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา โอกาสที่จะเกิดภัยร้ายย่อมมีสูงและเพิ่มขึ้นอีกในช่วงหน้าเทศกาล

 

“เตือนภัยหญิง”เที่ยวปีใหม่ “อย่าประมาท”

 

 

                                                พ.ต.ท. โชติวิเชียร  วิเชียรโชติ

 

         

 

            เกี่ยวกับเรื่องนี้ พ.ต.ท. โชติวิเชียร  วิเชียรโชติ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยผู้หญิง สะท้อนภัยคุกคามหญิงสาวที่แอบแฝงในปีใหม่นี้เกิดขึ้นได้ในสองลักษณะ คือ ภัยที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการปล้นจี้ชิงทรัพย์ ข่มขื่นกระทำชำเรา ที่บ่อยครั้งกลุ่มโจรใช้วิธีมอมยาบนรถยนต์โดยสาร ตามป้ายรถเมล์หรือสถานีขนส่งต่างๆ และภัยที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง แหล่งดื่ม กิน เที่ยวยอดฮิตในหมู่วัยรุ่นชายหญิง การดื่มฉลองแอลกอฮอล์ปริมาณมากทำให้ผู้หญิงเราขาดสติ ถูกล่อลวงได้ง่าย นำไปสู่ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศตามมา 

 

 

           เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลนี้ ผู้หญิงจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว

 

           เริ่มตั้งแต่การสำรวจตัวเองก่อนออกนอกบ้านทุกครั้ง แต่งกายให้รัดกุม กระฉับกระเฉง ไม่สวมใส่เครื่องประดับราคาแพงไปตามที่สาธารณะ หากจำเป็นต้องแต่งตัวด้วยชุดวาบหวิวหรือน้อยชิ้น ควรสวมเสื้อคลุมทับไว้จะดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มมิจฉาชีพ และต้องระวังการเดินทางกลับบ้านคนเดียวในเวลากลางคืนด้วย เท่านั้นยังไม่พอควรหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางเปลี่ยวไม่มีผู้คนจะดีที่สุด

 

           ส่วนการฉลองยามค่ำคืนภายหลังเสร็จสิ้นงานปาร์ตี้ อย่าได้ไว้ใจให้เพื่อนชายขับรถไปส่งที่บ้าน แนะนำให้โทรหาสมาชิกครอบครัวมารับจะปลอดภัยกว่า

 

           เนื่องจากการอยู่สองต่อสองกับเพื่อนชาย มีโอกาสเสี่ยงเกิดเหตุการณ์ข่มขืนที่มักเกิดจากบุคคลที่รู้จักกับผู้เสียหายมากกว่าบุคคลแปลกหน้า แต่ภายหลังเกิดเหตุถูกข่มขืนแล้วผู้เสียหายมักไม่แจ้งความและปล่อยเลยตามเลย ทำให้ผู้หญิงเราเสียเปรียบทางคดีและตกเป็นผู้ถูกล่วงละเมิดในระยะยาว

 

           ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวในสถานที่เสี่ยงภัย เช่น ทะเล หรือน้ำตกที่ปลอดผู้คน สถานบันเทิงต่างๆ ยิ่งหากเราพาตัวเองเข้าไปในชุมชนหนาแน่น ต้องระมัดระวังทรัพย์สินในกระเป๋าให้ดี รู้จักสังเกตคนรอบข้างมองดูบรรยากาศรอบตัว สนใจคนบนท้องถนน เพราะคนร้ายอาจแฝงตัวอยู่ในกลุ่มชน จ้องล้วงกรีดกระเป๋าของคุณอยู่  

 

           ที่สำคัญอย่าได้มองข้ามของใกล้ตัว พกติดกระเป๋าไว้เป็นอุปกรณ์ป้องกันโจรชั้นดีในยามขับขัน ให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนปกป้องตัวเองด้วยอุปกรณ์คู่กายหญิง จากคำแนะนำกลวิธีต่อสู้ของสำนักกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราสามารถใช้สิ่งของเหล่านี้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวได้ไม่ยาก 

“เตือนภัยหญิง”เที่ยวปีใหม่ “อย่าประมาท”“เตือนภัยหญิง”เที่ยวปีใหม่ “อย่าประมาท”

  

           เริ่มจาก “หวี หากเจอเหตุการณ์ถูกทำร้ายร่างกาย ให้ใช้ด้ามหวีแทงบริเวณใต้คาง หรือใช้ซี่หวีข่วนที่หน้าคนร้าย ในกรณีที่หาไม่เจอ “กุญแจ” ก็เป็นผู้ช่วยได้ ถือกุญแจให้ถนัดมือที่สุด แล้วแทงบริเวณใต้ลูกกระเดือก หรือแทงที่ลูกตา ส่วน “ปากกา ดินสอ” ให้ใช้ปลายแหลมทิ่มลงไปที่หลังมือคนร้าย 

          

           แต่ถ้าคนร้ายเดินมาประชิดตัวให้ใช้ “ร่ม” กระแทกไปที่ลำคอ หรือใช้ปลายร่มแทงที่ลิ้นปี่ แต่ระวังไม่ควรใช้ร่มฟาดหรือตี เพราะจะทำให้คนร้ายแย่งร่มไปได้ เราจะตกเป็นฝ่ายถูกกระทำกลับเสียเอง

           

           ส่วน “รองเท้า” ก็เป็นอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพเช่นกัน กะระยะระหว่างตัวเองกับคนร้ายให้อยู่ในช่วงที่ใช้เท้าได้ ยกเท้าถีบไปยังเป้ากางเกง ชายโครง ท้อง ใบหน้า ในระยะใกล้ให้ตีหรือฟาดไปที่ลำคอ แต่ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์กำลังจะถูกข่มขืน ถูกเอาลิ้นเข้ามาในปากต้องตั้งสติแล้วกัดลิ้นผู้ร้ายให้ขาด บางคนอาจใช้วิธีหักอวัยวะเพศเป็นจุดอ่อนของผู้ชายทั้งสิ้น การทำให้คนร้ายเจ็บตัวช่วยให้มีโอกาสหนีเอาตัวรอด เพื่อไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

 

           อย่างไรก็ดีอุปกรณ์ใกล้ตัวดังกล่าว ย่อมดีกว่าการใช้มีดพับ หรือ เครื่องช๊อตไฟฟ้า เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ต้องใช้ในระยะประชิดตัว หากคนร้ายแย่งไปได้จะทำให้เราได้รับอันตรายถึงชีวิต ขณะเดียวกันถ้าสาวๆไม่มีอุปกรณ์ช่วย แขนขาอวัยวะต่างๆ ของเราก็ช่วยได้ ไม่ว่าจะเป็นมือ แขน ศอก ขา เท้า ใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่น ถ้าคนร้ายประชิดตัวเกิน 2 ก้าว ให้ถีบเท้าซ้ายหรือขวาไปที่หน้าขาเหนือหัวเข่าของผู้ชาย

 

           ในกรณีเจอคนร้ายใช้ปืนหรือมีดจี้ทางด้านหลัง ให้หมุนตัวกลับเผชิญหน้ากับคนร้าย โดยเหวี่ยงเท้าขวาพร้อมใช้มือซ้ายปัดแขนคนร้ายออกด้านข้าง จากนั้นใช้สันมือขวาฟันไปที่ซอกคอคนร้ายอย่างแรง แต่ถ้าถูก “บีบคอ” ให้เกร็งลำคอและประสานมือยกขึ้นระหว่างแขนคนร้าย แล้วกระแทกมือคนร้ายให้ออกจากกัน หรือถูกจิกผมให้ประสานมือยกขึ้นวางทับมือที่คนร้ายจับ กดมือคนร้ายพร้อมหมุนตัวอย่างเร็วเพื่อบิดข้อมือคนร้าย และใช้ส้นเท้ากระแทกที่หน้าแข้งหรือหลังเท้าก็ได้

 

           วิธีการดูแลตัวเองดังกล่าว จะใช้ได้ผลต่อเมื่อ ผู้หญิงทุกคนมีสติอยู่เสมอซึ่งอาจไม่ง่ายนัก แต่ถ้าตั้งสติได้และวางท่าทีเฉยเมยทำเป็นไม่สนใจ หรือตีสีหน้าเย็นบึ้งตึงให้คนร้ายเห็นว่าคุณเอาจริง แล้วทำท่าเหมือนมีอาวุธอยู่ในมือ จะทำให้อีกฝ่ายชะงักเกิดความลังเล เป็นโอกาสให้คุณมีเวลาคิดหาทางเรียกร้องให้คนอื่นช่วยเหลือ เพราะถ้าตั้งสติไม่ได้ คุณจะลนลานและคิดไม่ออกว่าจะช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากสถานการณ์คับขันตรงนั้นได้อย่างไรดี

 

           ดังนั้นเวลาว่างๆ ลองฝึกสติด้วยการเล่นกีฬาบ่อยๆ สมมุติสถานการณ์ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ร้ายในรูปแบบต่างๆ จะป้องกันอย่างไร จะตอบโต้อย่างไร  เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงจะทำให้เราไม่ตกใจเกินเหตุ และที่ขาดไม่ได้ฉลองปีใหม่ปีนี้ สาวๆ อย่าพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์เสี่ยงเด็ดขาด ถ้าไม่อยากตกเป็นเหยื่อโจรโดยไม่รู้ตัว

 

 

 

 

 

เรื่องโดย: กิตติยา  ธนกาลมารวย Team content www.thaihealth.or.th

              

                   

 

Update:18-12-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: กิตติยา  ธนกาลมารวย

 

 

 

 

 

 

 


 

 

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ