เตือนภัยผู้บริโภค จาก “แร่ใยหิน”

ภัยใกล้ตัวในชีวิตประจำวันที่ไม่อาจมองข้าม

 

เตือนภัยผู้บริโภค จาก “แร่ใยหิน”              นักวิชาการเผยข้อมูลสุดช็อก กระเบื้อง ท่อน้ำ ผ้าเบรกเสี่ยงสารก่อมะเร็ง จากแร่ใยหิน เตือนฝุ่นก่อสร้างเจือปนสูงสุด ชี้อเมริกาเลิกใช้กว่า 30 ปีแล้ว จี้บริษัทก่อสร้างใช้สารอื่นทดแทน 

 

              นพ.พรชัย สิทธิศรันย์กุล อาจารย์ประจำคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงอันตรายจากการใช้แร่ใยหินว่า  ปัจจุบันแร่ใยหิน หรือ เอสเบสตอส ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างกว่า 90% เช่น การผลิตกระเบื้องมุงหลังคา ท่อซีเมนต์ ผ้าเบรคคลัตช์ กระเบื้องปูพื้น วัสดุกันไฟหรือความร้อน ซึ่งบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากแร่ใยหินโดยตรงกลุ่มแรกก็คือพนักงานที่ผลิตอุปกรณ์เหล่านี้ หากอยู่กับการผลิตที่ต้องใช้ส่วนผสมของแร่เอสเบสตอสเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดโรคหลายอย่างตามมา เช่น โรคปอดอักเสบ โรคความผิดปรกติของเยื้อหุ้มปอด หรือเป็นเนื้องอกของเยื้อหุ้มปอด โรคมะเร็งกล่องเสียงและโรคมะเร็งปอด ซึ่งในประเทศไทยได้พบผู้ที่ป่วยจากสารแอสเบสตอสแล้ว 1 คน

 

               สิ่งที่อันตรายที่สุดในตอนนี้คือ แร่ใยหินถูกทำให้กระจายอยู่ในอากาศจากการก่อสร้าง หากสูดควันหรือฝุ่นที่มีแร่ใยหินเจือปนอยู่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องผลักดันให้มีการติดป้ายฉลากบอกว่าสินค้าชนิดใดบ้างที่มีส่วนผสมของแร่ชนิดนี้ และต้องเรียกร้องให้ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างให้หันมาตระหนักถึงผลกระทบที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตคนหมู่มากนพ.พรชัยกล่าว

 

              นางมาลี พงษ์โสภณ นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการพิเศษ สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กองควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า การฟุ้งกระจายของฝุ่นที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก เพราะสามารถกระจายอยู่ได้ในทุกที่ ซึ่งในแต่ละปีมีผู้ป่วยอย่างน้อย 90,000 คนทั่วโลก ที่เสียชีวิตจากมะเร็งเยื่อหุ้มปอด มะเร็งปอด หรือโรคปอดอักเสบจากแร่ใยหินที่เกิดจากการทำงาน และมีผู้ป่วยอีกหลายพันคนที่ป่วยโดยไม่ได้สัมผัสแร่ชนิดนี้โดยตรงจากการทำงาน ประเทศไทยจึงควรประกาศให้หยุดใช้แร่ชนิดนี้ในการผลิตวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เพราะในสหรัฐอเมริกาได้เลิกใช้สารชนิดนี้มาแล้ว30 ปี โดยใช้วัตถุดิบทางเลือกอื่นมาทดแทน ซึ่งขณะนี้มีบางบริษัทในประเทศไทยได้นำวิธีการผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างที่ปลอดภัยมาใช้แล้ว แต่ก็ยังมีบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ถึง 3 แห่งที่ยังใช้แร่ใยหินอยู่ในปริมาณมาก

 

              นางสาลี อ๋องสมหวัง เลขานุการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้จัดการประชุมผู้แทนองค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศเพื่อระดมความเห็นเกี่ยวกับการประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก(ฉบับที่27) พ.ศ. 2552 ที่กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของแร่ใยหินเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ข้อสรุปว่า จะมีการทำหนังสือไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อขอความร่วมมือยับยั้งการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีแร่ใยหิน พร้อมกับสนับสนุนให้ติดฉลากสินค้าที่ปลอดจากการใช้แร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ

 

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

 

 

Update 01-12-52

 

 

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด

Shares:
QR Code :
QR Code