เตือนปชช. เฝ้าระวังไข้เลือดออก คาดปีนี้ยอดผู้ป่วยพุ่งเกินแสนราย
กระทรวงสาธารณสุข เผย 3 มาตรการ เฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกให้กับประชาชน ร่วมกันดูแลสุขภาพช่วงหน้าฝนป้องกันการแพร่เชื้อ ใช้ยุทธศาสตร์ 5 ป. 1 ข. กำจัดลูกน้ำยุงลาย
วันที่ 11 มิ.ย. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกปีนี้ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังสถานการณ์และวิเคราะห์ทุกสัปดาห์มาตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากนักวิชาการคาดการณ์ว่าแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากปี 2555 ตั้งแต่มกราคม-4 มิถุนายน 2556 พบผู้ป่วย 39,029 ราย กระจายในทุกจังหวัด ระบาดหนักในเขตเมือง เสียชีวิต 44 ราย หากมาตรการป้องกันควบคุมโรคในปีนี้ไม่ดีพอ คาดว่าผู้ป่วยจะเพิ่มถึง 1-1.5 แสนราย ซึ่งหลักระบาดวิทยาของโรคนี้จะระบาดปีเว้นปี หรือทุก 2 ปี
ยุทธศาสตร์ที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มี 3 มาตรการ คือ 1. รณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้และตระหนัก ร่วมมือป้องกันโรค ไม่ให้มีการเจ็บป่วย โดยกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย โดยช่วยกันทำลายลูกน้ำไม่ให้กลายเป็นยุงลาย ใช้ยุทธศาสตร์ 5 ป.1 ข.คือ ป.ที่ 1 ปิดฝาภาชนะไม่ให้ยุงวางไข่ ซึ่งยุงลายชอบวางไข่น้ำสะอาด ใส นิ่ง เช่นโอ่งน้ำ ป.ที่ 2 เปลี่ยนน้ำทุก 7 วัน เช่นน้ำหล่อขาตู้ ป.ที่ 3 ปล่อย ปลากินลูกน้ำเช่นปลาหางนกยูงลงในอ่างบัว ป.ที่ 4.ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ทำลายขยะ ไม่ให้เป็นแหล่งขังน้ำให้ยุงวางได้ ป.ที่ 5 คือปฏิบัติให้เป็นนิสัย และ 1 ข. คือขัดล้างภาชนะด้านในเพื่อกำจัดไข่ยุงลาย
2. การป้องกันเฉพาะตัวบุคคลในกรณีที่มีการระบาดหรือมีผู้ป่วยในพื้นที่จะต้องป้องกันการแพร่เชื้อ โดยป้องกันยุงลายที่เป็นพาหะของโรคไปกัดคนที่มีเชื้อและนำเชื้อไปปล่อยให้คนปกติ ให้นอนในมุ้ง และกำจัดลูกน้ำยุงลายในบ้านหรือที่อยู่อาศัยของตน หากไม่มีการระบาดในพื้นที่จะไม่พ่นหมอกควันเพราะไม่ใช่มาตรการป้องกันที่ได้ผล 3. การดูแลรักษาผู้ป่วยเพื่อลดการเสียชีวิต เนื่องจากขณะนี้เข้าสู่ฤดูกาลระบาดของโรคไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2556 จำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น จากการติดตามสถานการณ์พบว่าอัตราป่วยแล้วเสียชีวิตสูงขึ้น โดยเฉพาะในหนุ่มสาว เนื่องจากเข้าใจผิดว่าไข้เลือดออกเป็นเฉพาะในเด็ก มักไปซื้อยากินเองหรือไปรักษาที่คลินิกเมื่อไม่หายหรือมีอาการหนักแล้วจึงไปโรงพยาบาล ทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูง ทั้งนี้ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ได้เปิดสายด่วนไข้เลือดออกบริการให้คำปรึกษาแก่ประชาชน ทางหมายเลข 089 -2042255 ตลอด 24 ชม.
“สิ่งที่เป็นปัญหาขณะนี้คือสายพันธุ์ โดยปกติไข้เลือดออกที่พบในประเทศไทย มี 4 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ที่ 1, 2, 3 และ 4 หากติดเชื้อสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งแล้วจะมีภูมิคุ้มกันสายพันธุ์นั้นตลอดชีวิต กล่าวคือจะไม่ป่วยจากสายพันธุ์เดิมอีก และจะมีภูมิคุ้มกันต่ออีก 3 สายพันธุ์ในระยะสั้นๆประมาณ 6-12 เดือน เมื่อมีการติดเชื้อครั้งที่ 2 และเป็นเชื้อต่างสายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ 2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงที่สุด จะทำให้เกิดอาการช็อค เนื่องจากพลาสม่ารั่วออกจากเส้นเลือด เลือดจึงมีความเข้มข้นสูง ระบบการไหลเวียนเลือดล้มเหลวได้ง่าย ดังนั้นคนที่มีอายุมากส่วนใหญ่จะเคยติดเชื้อมาก่อนแล้ว จึงมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้มาก” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวต่อว่า มาตรการเพื่อลดการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก จะเน้นตรวจวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยให้เร็ว ดังนั้นหากมีอาการไข้สูงติดต่อกัน 2 วัน กินยาลดไข้แล้วไข้ไม่ลดลง ขอให้นึกถึงโรคนี้ เพราะขณะนี้เป็นฤดูกาลระบาดของไข้เลือดออก ให้รีบไปพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้จะเข้าสู่ภาวะไข้เลือดออกช็อค เป็นอันตรายมากและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน