เตือนนักท่องเที่ยวชอบขึ้นภู – ดูหมอก!ระวัง 4 โรคร้าย
แนะหมั่นดูแลสุขภาพ
คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง เตือนนักท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวต้องฟิตร่างกายสม่ำเสมอ เผย 4 โรคสำคัญที่ป่วยกันมาก หากมีอาการให้รีบไปพบแพทย์
คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ออกคำเตือนว่า ช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงมกราคม เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวจัด นักท่องเที่ยวมักนิยมเดินทางไปตั้งแคมป์บริเวณยอดดอยหรือยอดภูเพื่อชมทัศนียภาพ เช่น แม่คะนิ้ง และทะเลหมอก แต่หลังกลับจากการท่องเที่ยวมักจะพบผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด ปอดบวม โรคหัด โรคภูมิแพ้อากาศ และโรคหอบหืดเป็นจำนวนมาก
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ แก่นักท่องเที่ยวเกิดจากเชื้อไวรัสที่เจริญเติบโตและแพร่เชื้อได้ดีในสภาพอากาศแห้งชื้น ซึ่งอากาศหนาวยิ่งส่งผลให้ความต้านทานโรคลดลง เนื่องจากร่างกายอาจปรับสภาพไม่ทัน ดังนั้นก่อนการเดินทางควรดูแลร่างกายโดยออกกำลังอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 30 นาที และควรเตรียมเสื้อกันหนาว ถุงมือ และผ้าห่มติดกระเป๋าไปด้วย เพื่อรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่
นอกจากนี้ควรดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ และอาบน้ำเร็วกว่าปกติเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศเย็น เพราะน้ำเย็นมากอาจกระตุ้นทำให้เกิดไข้หวัดได้ง่าย ซึ่งพบผู้ป่วยมากในฤดูหนาว เชื้อไวรัสจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย และโรคนี้ติดต่อได้ง่ายโดยการหายใจ ไอ หรือจามรดกัน อาการเด่นคือมีไข้ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว น้ำมูกไหล ไอ จาม อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร การป้องกันควรหลีกเลี่ยงอยู่ในที่แออัดรวมกับผู้ป่วย และการรักษาควรพักผ่อนมากๆ รับประทานยาตามอาการ
“ปอดบวม” ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อปอด หลอดลม และถุงลม ทำให้มีของเหลวเกิดขึ้นในถุงลม โรคนี้ส่วนใหญ่เป็นโรคแทรกซ้อนและเกิดหลังจากไข้หวัดประมาณ 2-3 วัน อาการเด่นมีอาการไอ เจ็บหน้าอก มีไข้สูงและหายใจหอบ
“โรคหัด” เป็นโรคที่แพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว มักพบมากในช่วงฤดูหนาวถึงต้นฤดูร้อน สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส พบมากในน้ำลายของผู้ป่วย ติดต่อโดยการไอ จาม หายใจรดกัน หรือการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ร่วมกัน มีอาการระยะแรกคล้ายหวัด มีไข้สูงตลอดเวลา กินยาไข้ก็ไม่ลด และถ่ายเหลวบ่อยครั้งเหมือนท้องเดิน ผู้ป่วยเด็กอาจชักได้เมื่อไข้ขึ้นสูง
“โรคภูมิแพ้อากาศ” พบในฤดูหนาวมากกว่าฤดูอื่น เกิดจากการที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ทางการหายใจ อาการเด่นชัดคือคันจมูก คันตา น้ำมูกใส จามบ่อย แน่นจมูกตอนเช้า หากไม่อยากให้โรคภูมิแพ้อากาศมารบกวนก่อนเตรียมตัวจัดกระเป๋าควรนำเสื้อกันหนาวและที่นอนมาทำความสะอาดก่อนน้ำกลับมาใช้ใหม่ และที่สำคัญควรพักผ่อนให้พอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
“โรคหอบหืด” เหตุคือมลภาวะในอากาศหน้าหนาวจะเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะหมอกและควันพิษจะไม่ลอยสูงขึ้นไปตามลม ทำให้เราหายใจนำมลพิษเข้าไปในปอด มลพิษเหล่านี้อาจเป็นสารกระตุ้นให้เกิดโรคหอบหืดได้ง่าย ดังนั้นหากไปเที่ยวในสภาพพื้นที่ที่มีคอากาศหนาวควรเตรียมหน้ากากอนามัยไว้สวมด้วยเพื่อเป็นการป้องกัน
หากนักท่องเที่ยวสงสัยว่าเป็นโรคดังกล่าว หรือมีอาการไม่สบายหลังจากการเดินทางท่องเที่ยวควรไปพบแพทย์ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่คลินิกเวชศาสตร์ท่องเที่ยวและการเดินทาง ในวันและเวลาราชการ โทรศัพท์ 0-2354-9100 ต่อ 1405 และนอกเวลาราชการ ต่อ 1410 หรือเว็บไซต์ http://www.thaitravelclinic.com
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update : 07-11-51