เด็กเชียงใหม่รักโลกอาสาเป็นหมอดูแลต้นไม้
เช้าวันหยุดในวันที่อากาศเย็นสบาย น่านอนตื่นสายแต่เด็กนักเรียนจากโรงเรียนวชิรวิทย์ อ.เมืองจ.เชียงใหม่ กลับลุกจากที่นอนมาเจอะเจอกับพี่ๆ จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เพื่อจับมือกันดูแลรักษาต้นไม้ใหญ่รอบคูเมืองเชียงใหม่ โดยตั้งเป้า 2,500 ต้น ในระยะทาง 4 กิโลเมตร เป็นเวลา 1 ปี
โครงการ เยาวชน หมอต้นไม้อาสา เกิดขึ้นจากผู้ใหญ่ใจดีจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายเชียงใหม่ เขียว สวยหอม เทศบาลนครเชียงใหม่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อเผยแพร่แนวคิด หมอต้นไม้อาสาสร้างเครือข่าย และปลูกฝังเยาวชน ให้เกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้ทุกคนตระหนัก และการเข้ามามีส่วนร่วมของเยาวชน ต่อการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในชุมชน
ด.ช.อธิศ ตระกูลมีนัก หรือ ต๊ะ วัย 9 ขวบ ชั้น ป.3 บี โรงเรียนวชิรวิทย์ บอกว่า สมัครมาเป็นหมอต้นไม้อาสา เพราะอยากดูแลโลก ดูแลต้นไม้ โลกร้อนมากขึ้นทุกที นอกจากเราจะช่วยกันปลูกต้นไม้แล้ว เรายังต้องช่วยรักษาบาดแผลเวลาเขาป่วยด้วยครับ
ปัจจุบันโลกของเรากำลังเผชิญกับวิกฤตภาวะโลกร้อน เพราะธรรมชาติและสภาพแวดล้อมถูกลดทอนลงจนขาดความสมดุล ผลกระทบจึงตกอยู่กับชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรโลก ดังนั้น การสร้างความรู้และความเข้าใจต่อทรัพยากรบุคคลจึงเป็นหัวใจสำคัญทำให้ผู้ใหญ่หันมาให้การสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนในชุมชน มีความรู้ ทักษะเบื้องต้น ปลูกจิตสานึก เกิดความรักและหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรมหมอต้นไม้อาสาเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชนและเมืองแบบมีส่วนร่วม ผ่านคลินิก หมอต้นไม้ แห่งแรกของเมืองไทย
“ต๊ะ” ชวนเพื่อนร่วมแก๊งทั้ง “โจ” ภานุพงษ์แปลกสุวรรณและ “โบอิ้ง” คฑาวุธ อุดมพันธุ์ เด็กกรุงเทพฯ ที่ตามครอบครัวมาอยู่เชียงใหม่ เพราะเบื่อรถติด เข้าร่วมกิจกรรม เยาวชน หมอต้นไม้อาสา ด้วยสีหน้ารื่นเริง แม้พวกเขาจะซุกซนและวิ่งเล่นไปมาตามประสาเด็ก แต่ด้วยความช่างซัก ช่างถาม สงสัยโน่นนี่ทั้งวัน จะช่วยให้เด็กๆ มีจิตสำนึกรักและร่วมปกป้องธรรมชาติรอบตัว
เหมือนที่ “เน็ท” ลลิตา เพ็ชรณสังกุล ชั้นปีที่ 4 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแม่โจ้ บอกว่า เป็นการฝึกที่ลงมือทำจริง เริ่มตั้งแต่การตรวจสุขภาพ หรือสำรวจบาดแผลต้นไม้ ฉีดน้ำทำความสะอาด ใช้สว่านเจาะรูยึดปากแผลด้วยนอตและเหล็ก ทายากันเชื้อรา เคลือบผิว และปิดปากแผลด้วยอะคริลิก เรียกว่าทำศัลยกรรมและรักษาบาดแผลต้นไม้
นี่จึงเป็นโอกาสที่เยาวชน จะได้ร่วมมือกันดูแลต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น อากาศบริสุทธิ์ รวมทั้งทัศนียภาพที่สวยงามแก่ผู้คนทั้งโลก…
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน