เด็กเครียดฆ่าตัวตายวันละ2คน สื่อตัวการทำเซ็กซ์สกปรกโสมม

เผยพบเด็กเบี่ยงเบนทางเพศสูงขึ้น เหตุครอบครัวไม่อบอุ่น

            สสส. เผยเด็กฆ่าตัวตายจากความเครียดเฉลี่ยวันละ 2 คน นอกจากนี้ยังเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอันเป็นผลมาจากการดื่มแอลกอฮอล์วันละ 16 ราย ระบุครอบครัวแตกแยกกระตุ้นให้เกิดเพศที่ 3 ชี้สื่อตัวการทำให้เกิดเซ็กซ์ที่สกปรกโสมม

            นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในการเสวนาเรื่อง “เด็กไทยปลอดภัยจริงหรือ” ตอนหนึ่งว่า สาเหตุการเสียชีวิตของเด็กและเยาวชนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1.อุบัติเหตุเนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 40-50% ทำให้มีเด็กเสียชีวิต 16 รายต่อวัน 2.ติดเชื้อเอชไอวี โดยเด็กผู้ชายมีพฤติกรรมเสี่ยงด้วยการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ มีเซ็กซ์ไม่ปลอดภัย ส่วนเด็กผู้หญิงเกิดจากการมีเซ็กซ์ที่ไม่ปลอดภัย และโรคเสพติด เช่น ติดเกม และการบริโภคนิยม และ 3.ภาวะความเครียดจากหลายสาเหตุจนนำมาสู่การฆ่าตัวตาย พบว่าทั่วประเทศมีเด็กฆ่าตัวตายประมาณปีละ 600 ราย เฉลี่ยวันละ 2 คน

            นพ.สุริยเดวกล่าวอีกว่า รายงานเพศที่ 3 ในช่วงศตวรรษที่ 19 มีแค่ 1% แต่ปัจจุบันมีเพศที่ 3 ถึง 15% อันเนื่องมาจากปัจจัยภายในคือ กรรมพันธุ์ โครโมโซม ยีน การคลอดผิดปรกติ มีอวัยวะเพศกำกวม มีทั้งองคชาตและอวัยวะเพศหญิง และปัจจัยภายนอก คนใกล้ชิดที่เลี้ยงดูเด็ก โดยพบว่าเกย์ กะเทย ตุ๊ด เกิดจากครอบครัวที่ไม่มีพ่อ ไม่มีความอบอุ่น เด็กไม่มีผู้ชายให้ลอกเลียนแบบ หรือมีพ่อ แต่พ่อดุดัน ดุจัดเกินไป เด็กไม่กล้าลอกเลียนแบบ หรือพ่ออ่อนแอ ยวบยาบ หรือพ่อทำงานตลอดอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่กับลูก เช่นเดียวกับลูกที่เป็นทอม ดี้ แม่ก็เป็นเช่นเดียวกันคือ แม่ดุดัน หย่อนยาน หรือไม่มีแม่ ซึ่งช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญที่สุดของเด็กคือ แรกเกิดถึง 6 ปี หากฝากคนอื่นเลี้ยงหรือไม่ดูแลใกล้ชิดจนเด็กเกิดปัญหาก็สายไปที่จะกลับมาดูแล

            “สื่อและบุคคลสาธารณะมีผลกระตุ้นหล่อหลอมเด็กว่าเพศที่ 3 เป็นที่ยอมรับต่อสังคม ประกอบกับพ่อแม่ไม่มีทักษะและเวลาในการดูแล ทั้งนี้ หากเด็กเป็นเพศที่ 3 สังคมรอบข้างคือ บ้าน โรงเรียน ชุมชน ต้องยอมรับ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ยอมรับทั้งประเทศ มิฉะนั้นจะเป็นกันเต็มบ้านเต็มเมือง เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี และหากยังมีสื่อที่ยั่วยุทางเพศต่อไปเราจะกลายเป็นโลกที่มีแต่เซ็กซ์สกปรกโสมม”

            นพ.สุริยเดวกล่าวด้วยว่า วัยรุ่นเพศที่ 3 เป็นโรคกลัวอ้วนรุนแรงกว่าเด็กชายหญิงทั่วไป ประกอบกับอารมณ์ที่ขึ้นลงรวดเร็ว ภาวะอีคิวที่มีปัญหา พ่อแม่ไม่มีทักษะเลี้ยงลูกเพศที่ 3 ทำให้เด็กมีภาวะเครียดสูง และนำไปสู่การฆ่าตัวตายมากกว่าเด็กทั่วไป ทางออกควรมีศูนย์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระดับเด็ก เยาวชน ครอบครัว และจัดแฟมิลี่ เดย์ เพื่อรณรงค์กิจกรรมสร้างสรรค์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีต้องให้ความสำคัญกับเด็ก ถ้าไม่ลงทุนกับเด็กแสดงว่าไม่ได้ทำเพื่อประเทศในอนาคต

            แหล่งข่าวจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กล่าวถึงมาตรา 5 ของ พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก พ.ศ. 2540 ตอนหนึ่งกำหนดว่า การจัดให้หญิงหรือเด็กกระทำการหรือยอมรับการกระทำใด เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เพื่อการอนาจาร หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้ ไม่ว่าหญิงหรือเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ถือเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าหญิงหรือเด็ก เพราะฉะนั้นกรณีที่ข้าราชการ นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป รับเป็นไซด์ไลน์ตามสถานบันเทิงอาบอบนวด หรือสถานที่ต่างๆ หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าการให้บริการเข้าข่ายในลักษณะอนาจาร หรือสนองความใคร่ของคนอื่น ก็จะถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.นี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            “พ.ร.บ.ฉบับใหม่จะนำมาใช้บังคับแทน พ.ร.บ.มาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก พ.ศ. 2540 และผู้กระทำความผิดที่เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ไม่ได้เอาผิดแต่เฉพาะคนขายเท่านั้น แต่จะรวมถึงผู้ซื้อ ผู้สนับสนุน ผู้ชักชวน ชี้แนะ ก็มีโทษเช่นเดียวกันด้วย อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ยังไม่มีผลบังคับใช้ หากเกิดการกระทำผิดในช่วงเวลาดังกล่าวก็จะใช้ พ.ร.บ. ปี 2540 ในการพิจารณาความผิด” แหล่งข่าวกล่าว

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้

update 13-05-51