เด็กขาดไอโอดีน ส่งผลต่อการพัฒนาสมอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
แฟ้มภาพ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์วันไอโอดีน แห่งชาติปี 2559 หนุน ภาคีผู้ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดมหาสารคาม จัดตั้ง "สารคามโมเดล" หวังพัฒนาระบบเกลือเสริมไอโอดีนยั่งยืน ลดปัญหาโรคขาดสารไอโอดีนในพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมเป็นต้นแบบให้ พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธาน เปิดงานรณรงค์เนื่องในวันไอโอดีนแห่งชาติ "ประชาร่วมใจขจัดโรคขาดสารไอโอดีน สู่วิถีความยั่งยืน" ณ โรงแรมตักศิลา จังหวัดมหาสารคาม ว่าคณะรัฐมนตรีลงมติเห็นชอบให้ทุกวันที่ 25 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันไอโอดีนแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมา กรมอนามัย ในฐานะหน่วยงานหลักของกระทรวงสาธารณสุขได้จัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างความรู้ ตระหนัก และร่วมกันขับเคลื่อนการป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เนื่องจากปัญหาโรคขาดสารไอโอดีนมีผลกระทบร้ายแรงต่อการพัฒนาสมองของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ตลอดจน ถึงช่วงระยะทารกแรกเกิดและเด็กปฐมวัย ที่ถือเป็นช่วงวัยทองของการพัฒนา สติปัญญา และไอคิวของเด็กไทยรวมทั้งประชากร ทุกกลุ่มวัยก็ได้รับผลกระทบจากการขาดสารไอโอดีนด้วยเช่นกัน
นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อไปว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดความครอบคลุมการใช้เกลือเสริมไอโอดีน ในระดับครัวเรือนจะต้อง มากกว่าร้อยละ 90 ขึ้นไป ซึ่งแม้ว่าแนวโน้มความครอบคลุมการใช้เกลือเสริมไอโอดีนในครัวเรือนจะดีขึ้นในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา แต่ค่ามัธยฐานไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นการพัฒนาระบบเกลือเสริมไอโอดีนยั่งยืนภายใต้รูปแบบสารคามโมเดล จึงต้องประกอบด้วย3 ส่วนหลักสำคัญคือ 1.การผลิตที่เพียงพอทั่วถึง ครอบคลุมและมีคุณภาพ 2.การกระจายที่ต้องมีระบบการตรวจสอบ ติดตาม เฝ้าระวังเกลือที่กระจายไปสู่ร้านค้า ชุมชน ต้องเป็นเกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานเท่านั้น และ 3.ประชาชนต้องมีความรู้ ตระหนัก และให้ความสำคัญกับการได้รับสารไอโอดีนจากการบริโภคเกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
"ทั้งนี้ยังมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้น้ำปลา น้ำเกลือปรุงอาหาร ผลิตภัณฑ์จากการย่อยโปรตีนถั่วเหลือง เช่น ซีอิ๊วและซอสปรุงรส ต้องมีไอโอดีนในอัตราส่วนที่กำหนดด้วยนอกจากนี้ กรมอนามัยยังมีมาตรการเสริมเฉพาะพื้นที่โดยการเสริม ไอโอดีนในน้ำดื่มดำเนินการเฉพาะโครงการส่งเสริมโภชนาการเด็กและ เยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนพัฒนาเด็กและ เยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมาตรการเสริมเฉพาะกลุ่มเป้าหมายโดย ส่งเสริมสนับสนุนให้หญิงตั้งครรภ์และหญิงหลังคลอดบุตร 6 เดือนทุกคน หรือร้อยละ 100 ได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีนและกินติดต่ออย่าง สม่ำเสมอ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ทุกชุมชน/หมู่บ้านเป็นชุมชน/หมู่บ้านไอโอดีนอย่างยั่งยืนต่อไป"