การเดิน..เป็นวิถีธรรมชาติของร่างกาย..ที่ธรรมชาติประทานมาให้แต่กำเนิด ผู้ใดหลงลืมธรรมชาติด้วยการเดินน้อย กินมาก ร่างกายก็มักจะไม่ปลื้ม อยากกินมากนักเหรอเจอ..อ้วนซะเลย นั่งมากใช่ไหม..พุงโตเกินเกณฑ์ ไม่ชอบเดินเอาแต่นั่งๆ นอนๆ..ก็อาจจะได้นอนตลอดไป และจะได้ของแถมให้กับร่างกายอีกอย่างพวก โรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ กระดูกเสื่อม
แต่ทว่า หากใครเดินน้อยแต่ออกกำลังกายบ้าง..เช่น วันเว้นวัน ร่างกายก็ยังพออภัย และนี่คือ สิ่งที่ธรรมชาติจัดให้…ตามการกระทำหรือที่ภาษานัก วิชาการเรียกว่า…ตามพฤติกรรมที่เราทำ..ทำแบบไหนได้แบบนั้นเลย
ดร.บุษบา สงวนประสิทธ์ จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้บอกว่า การออกกำลังที่ถูกต้อง และเพียงพอเป็นปัจจัยที่ช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคไร้เชื้อ หรือโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน มะเร็งบางชนิด กระดูกบางหรือผุ ภูมิแพ้ และช่วยลดความวิตกกังวล ทำให้สุขภาพจิต คุณภาพชีวิตและชีวิตสังคมดีขึ้น
ดังนั้น เป็นที่แน่นอนว่า ถ้าไม่ออกกำลังกาย หรือใช้ชีวิตอย่างคืนสู่ธรรมชาติโรคทั้งหลายก็จะไม่มาคุกคามเราแน่ โดยเฉพาะเรื่องของความดันโลหิตสูงที่เราพูดต่อเนื่องกันมาตลอด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันโรคโดยเฉพาะโรค ความดันโลหิตสูงมิให้มาเยือนคือ การเดิน แล้วก็เดิน นั่นเอง เพราะว่าการเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดแล้ว เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ต้องหา อุปกรณ์เสริมให้เสียเงินเสียทอง ที่ไหนๆ ก็ทำได้ ความปลอดภัยสูง ไม่ต้องเขิน คนที่ไม่เคยออกกำลังหรือเริ่มใหม่ๆ บางคนเขินอายที่จะออกกำลังกายก็จะสบายขึ้น
คนที่รู้ตัวแล้วว่าป่วยหรือมีความดันโลหิตสูง ก็ไม่ต้องกังวลเพราะว่า การเดินเป็นการออกกำลังกายที่เราสามารถควบคุมความเร็วให้เหนื่อยมากเหนื่อยน้อยได้สะดวกด้วยตัวเราเอง เพี่อความแน่ใจคนที่เป็นความดันโลหิตสูงอยู่จะถามหมอประจำตัวดูก่อนก็ได้ว่า “เดินออกกำลังกายได้หรือไม่” และถ้าไม่มีโรคประจำตัว ก็ต้องรู้ตัวว่าไม่ได้ออกกำลังกายมานานกี่ปีแล้ว ถ้านานปีมากก็ต้องเริ่มจากน้อยๆ ก่อน ดังนี้
วันที่ 1-7 เดินสัก 3,000-4,000 ก้าว หรือ 1 กิโลเมตร (คำนวณว่า 1 เมตรเดินได้ 3-4 ก้าว)
วันที่ 8-14 เดินสัก 5,000-6,000 ก้าว หรือ 1.5 กิโลเมตร
วันที่ 15-21 เดินสัก 7,000-8,000 ก้าว หรือ 2 กิโลเมตร
และค่อยๆ เพิ่มขึ้นๆ อย่างนี้จะทำให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัว ปรับความแข็งแรงขึ้น โอกาสของความดันโลหิตสูงจะสูงขึ้นก็จะน้อยลง ความดันโลหิตที่สูงอยู่ก็จะค่อยๆ ปรับลง แต่องค์ประกอบสำคัญเรื่องการไม่กินหวาน มัน เค็ม และไม่กินมาก รวมถึงคุมอารมณ์ อย่าให้เครียดไว้ด้วย
แต่ที่แน่ๆ ถ้าท่านเดินทุกวัน ก็ชวนลูกชวนหลานไปเดิน ครอบครัวก็จะอบอุ่น เจอเพื่อนๆ ที่เห็นหน้ากันประจำก็พูดคุยทักทาย สูดอากาศ และเห็นธรรมชาติบ้าง ปัญหาทางด้านอื่นๆ ก็จะลดตามไปด้วย นี่เป็นการออกกำลังกายแบบง่ายๆ แต่ได้ของกำนัลกลับคืนมาแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย
ที่มา:สยามธุรกิจ