‘เชียงใหม่ ดื่มไม่ขับกลับบ้านปลอดภัย’
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
ภาพประกอบจากเว็บไซต์เชียงใหม่นิวส์
ตำรวจเชียงใหม่จัดโครงการ "เชียงใหม่ ดื่มไม่ขับกลับบ้านปลอดภัย"
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 29 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จัดประชุมโครงการ “เชียงใหม่ ดื่มไม่ขับกลับบ้านปลอดภัย” โดยมี พ.ต.อ.ฐาปนพงษ์ ชัยรังษี ผกก.กลุ่มงาน จราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน โดยได้รับความร่วมมือจากตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ รวมไปถึงตัวแทนจากผู้ประกอบการสถานบันเทิงเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
สำหรับโครงการนี้ ถือเป็นการร่วมมือกันระหว่างกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คณะกรรมการสนับสนุนการป้องกันอุบติเหตุจราจร (สอจร.) และผู้ประกอบการสถานบันเทิง โดยมุ่งหวังที่จะลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จากผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ สร้างจิตสำนึกที่ดี ในความห่วงใยด้านความปลอดภัยบนท้องถนน ผลักดันให้สถานบริการ หรือร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้มีส่วนร่วมในการป้องกันไม่ให้ผู้ที่เมาสุรา ขับขี่รถออกจากสถานบริการไปบนท้องถนน ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากคนเมาสุราแล้วขับรถ เพื่อให้พี่น้องประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนน จะได้รับความปลอดภัยจากการเดินทาง
ด้าน พ.ต.อ.ฐาปนพงษ์ ชัยรังษี ผกก.กลุ่มงาน จราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เชียงใหม่ถือว่าเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวอันดับต้น เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ดังนั้นจึงส่งผลให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในความปลอดภัย และตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นเราจะต้องดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังจะต้องมีการดูแลความปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนถนน จากสถิติตัวเลขอุบัติเหตุบนถนนในช่วงเทศกาลสำคัญ ต่าง ๆ พบว่าสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากเมาสุราแล้วขับ
ดังนั้นทางกลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงสถานบริการ ในการจัดทำโครงการ เชียงใหม่ ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย ขึ้น เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุ ซึ่งแนวทางการปฏิบัตินั้น จะมีการทำงานในเชิงรุก จะได้มีการจัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ในการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เข้าไปทำการตรวจคัดกรองผู้ใช้บริการ หากพบผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนด ก็จะได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ใช้รถบริการสาธารณะในการเดินทางแทนการขับรถส่วนตัว นอกจากนี้ยังคงจะมีการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุและการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้เป็นอย่างดี