เชียงใหม่เร่งแก้วิกฤติปัญหาหมอกควัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์หมอกควันไฟที่ลอยปกคลุมเหนือท้อง จ.เชียงใหม่ ยังคงขยายวงสร้างผลกระทบออกไปยังพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและชุมชนรอบนอกตัวเมืองมีประชาชนได้รับผลกระทบ ล้มป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจและโรคระคายเคืองตาเข้ารักษาตัวตามโรงพยาบาลจำนวนมาก ล่าสุดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ร่วมกับสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จ.เชียงใหม่ ฝ่ายปกครอง จ.เชียงใหม่จัดเสวนาหาทางแก้ไขปัญหาวิกฤติหมอกควัน มีการเสวนาความรู้เรื่องผลกระทบต่อสุขภาพ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

เชียงใหม่เร่งแก้วิกฤติปัญหาหมอกควัน

โดยสถิติทางการแพทย์ชี้ว่า ประชาชนชาวเชียงใหม่ มีอัตราป่วยเป็นโรคมะเร็ง 34คนต่อประชากรแสนคน ขณะที่ค่ากลางของประเทศอยู่ที่ 5คนต่อประชากรแสนคน ซึ่งหมายถึงชาวเชียงใหม่ มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่าคนทั่วไป 7เท่า ซึ่งนอกจากสูบบุหรี่แล้ว หมอกควันก็มีผลต่อการเป็นมะเร็งของคนเช่นกัน และผลการศึกษาชี้ชัดว่าคนที่อยู่เชียงใหม่เกิน 10ปี มีความเสี่ยงมากกว่าคนพื้นที่อื่น

นายมงคล สุกใส นายอำเภอสารภี กล่าวว่า ชาวอำเภอสารภี มีสถิติป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดสูงที่สุดในประเทศไทย ซึ่งผลมาจากการเผาใบลำไยกว่า 5พันตัน และใบยางนาอีก 500ถึงพันตันต่อปี อย่างไรก็ตาม อำเภอสารภีมีทางออกแล้ว คือ ส่งเสริมนำใบลำไยมาทำปุ๋ยหมัก ขายปุ๋ยหมักได้เงินกว่า 5ล้านบาท ส่งใบลำไยขายเอกชนประเทศญี่ปุ่นทำปุ๋ยหมัก และนำปุ๋ยหมักไปผลิตผักอินทรีย์ ประชาชนมีรายได้กว่า 17ล้านบาทในขณะนี้

ด้าน นายสุรชัย จงรักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หมอกควันใน จ.เชียงใหม่เกิดขึ้นจากสามส่วน คือ เผาในป่า เผาในที่โล่งและมลพิษจากในเมือง เช่น ยานพาหนะโรงงานอุตสาหกรรม การแก้ปัญหาต้องแก้ทั้ง 8จังหวัดภาคเหนือตอนบน ไม่เพียงเฉพาะเชียงใหม่ ซึ่งเป็นแอ่งกระทะ และจะต้องโยงใยถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้ถือเป็นวาระจังหวัด บูรณาการทำงานเพิ่มความเข้มข้นไปจนถึงเดือนเมษายน จะต้องนำกฎหมายเข้าบังคับใช้อย่างเฉียบขาด

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code