เจ้าชู้-หึงหวงต้นเหตุรุนแรงคู่รักวัยรุ่น
เปิดโพลความรุนแรงในคู่รักวัยรุ่น ชี้ "นอกใจ-เจ้าชู้-หึงหวง" ยังครองแชมป์กระตุ้นให้เกิดความรุนแรง เผยสาเหตุที่ทนเพราะรัก-อาย-กลัวพ่อแม่รู้ แนะ 6 วิธีแก้ปัญหาตั้งสติ ไม่รุนแรง แจ้งความ ขอรับคำปรึกษา
ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และนิสิตนักศึกษา จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในโอกาสวันยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กปี 2557 ภายใต้แคมเปญ "อย่าอ้างว่ารัก แล้วทำร้าย" น.ส.อังคณา อินทสา หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมความเสมอภาพระหว่างเพศ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยผลสำรวจ "สถานการณ์ความรุนแรงในคู่รักวัยรุ่น"ว่า จากกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียน นักศึกษาหญิง ทั้งหมด 1,204 ราย อายุระหว่าง 17-25 ปีจาก 14 สถาบันการศึกษา ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ทั้งนี้ เมื่อถามถึงสถานการณ์ความรุนแรงของคู่รักในวัยรุ่น ที่ต้องเผชิญกับตัวเองหรือจากเพื่อน คนรู้จัก พบอันดับแรก 98.4% คือ การนอกใจ เจ้าชู้คบหลายคน รองลงมา90.5% การใช้คำหยาบคายส่งเสียงดัง 75% การทำลายข้าวของ 74% ทำร้ายร่างกาย เช่น กระชากแขน ดึงผม ตบหน้า ตบหัว ทุบตี เตะ ขณะที่ 71.6% เป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยวห้ามออกไปไหน และ68.8%การตั้งครรภ์ไม่พร้อม
น.ส.อังคณา กล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดปัญหาความรุนแรงของคู่รักในวัยรุ่น คือ 18.8% การนอกใจ 18.6% หึงหวง/แสดงความเป็นเจ้าของ 17.1% ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 12.5% แสดงอำนาจที่เหนือกว่า/ไม่ให้เกียรติกัน ขณะเดียวกันเหตุผลที่ผู้หญิงต้องอดทนเพิกเฉยต่อการถูกกระทำ พบว่า 23.3% ทนเพราะรัก 22.7% ไม่กล้าบอกใคร 17.9% กลัวพ่อแม่/ผู้ปกครองรู้ 17%กลัวถูกทำร้ายซ้ำ และเมื่อถามว่า หากพบเห็นผู้ถูกกระทำความรุนแรงจากแฟนหรือคนรักจะทำอย่างไร กลุ่มตัวอย่าง 33.4% ตอบว่า แจ้งตำรวจ 18% แจ้งผู้ดูแลหอพัก/ผู้อาวุโสในละแวกนั้น 16% เข้าไปห้าม 7.4% เพิกเฉย และในทางตรงกันข้าม หากเป็นผู้ถูกกระทำความรุนแรงเอง จะมีวิธีป้องกันตัวอย่างไร กลุ่มตัวอย่าง 47% ระบุว่า ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน/คนรู้จัก 23.3% หนีไปอยู่ที่อื่นสักพัก/หนีปัญหา 12.3% ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ 9.5% ระบายทุกข์ด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
"ผลสำรวจดังกล่าวสะท้อนพฤติกรรมความรุนแรงในวัยรุ่นได้อย่างชัดเจน จึงขอฝากคำแนะนำ เมื่อวัยรุ่นต้องเผชิญกับความรุนแรงดังนี้ 1. ตั้งสติ อย่าใช้อารมณ์ 2. ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง 3. หาทางเอาตัวเองออกจากพื้นที่เกิดเหตุ 4. แจ้งเหตุขอรับการช่วยเหลือ 5. อย่าเก็บเรื่องไว้คนเดียว ขอคำปรึกษาและ 6.หลีกเลี่ยงการดื่มหรือเสพของมึนเมาทุกชนิด ซึ่งทำให้ขาดสติและเพิ่มดีกรีความรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากวัยรุ่นต้องเผชิญสถานการณ์เลวร้าย สามารถขอคำปรึกษาและการช่วยเหลือจากมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลที่ 0-2513-2889 และจากปัญหาดังกล่าว ทางมูลนิธิฯ เตรียมที่จะเข้าพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขในเร็วๆ นี้ และจะสนับสนุนให้มีการรณรงค์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ" น.ส.อังคณากล่าว
ที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต