เงื่อนไขอายุยืน 100 ปี สุขภาพเด็กไทย

ธาตุสังกะสี ก็มีส่วน

 

เงื่อนไขอายุยืน 100 ปี สุขภาพเด็กไทย 

“ทารกจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งที่เกิดในประเทศร่ำรวย จะมีอายุยืนยาวถึง 100 ปีนี่เป็นผลการศึกษาของ ศ.แคร์ คริสเตนเซน ศูนย์วิจัยการสูงวัย มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น เดนมาร์ก ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์แลนเซท โดยนักวิชาการรายนี้เสนอรายงานว่า… นับแต่ปี พ.ศ. 2383 พบว่าคนมีอายุยืนเพิ่มขึ้น และไม่มีสัญญาณว่าแนวโน้มนี้จะชะลอตัวลง ซึ่ง คนในประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีชีวิตยืนยาวขึ้นราว 30 ปี

   

ทั้งนี้ ในปี พ.ศ. 2493 มีประชากรเพศหญิงอายุระหว่าง 80-90 ปี ร้อยละ 15-16 มีประชากรเพศชายวัย 80-89 ปี ร้อยละ 12 แต่เมื่อถึงปี พ.ศ. 2545 จำนวนประชากรหญิง และชาย ในวัยนี้ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 37 และร้อยละ 25 ซึ่งในญี่ปุ่นอัตราการรอดชีวิตของประชากรหญิงอายุ 80-90 ปี มีอยู่กว่าร้อยละ 50 

   

รายงานของ ศ.แคร์ คริสเตนเซน ระบุอีกว่า… ทารกและเด็กมีชีวิตอยู่รอดมากขึ้น มีส่วนทำให้ประชากรโลกมีอายุขัยยืนยาวกว่าเดิม ซึ่งถ้าแนวโน้มอายุขัยประชากรในประเทศพัฒนาแล้วยังเป็นเช่นนี้ ก็เชื่อได้ว่า ทารกส่วนใหญ่ในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร สหรัฐ แคนาดา ญี่ปุ่น ที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา จะมีอายุขัยเฉลี่ยยืนยาวถึง 100 ปี โดยอายุขัยที่ยืนยาวขึ้นนี้เป็นสิ่งท้าทายสำคัญต่อสังคม เศรษฐกิจ การแพทย์ เพราะผู้สูงอายุจะมีสัดส่วนมากขึ้นในโครงสร้างประชากร

   

แนวโน้มสุขภาพเด็กในประเทศพัฒนาแล้ว…น่าสนใจ

   

ขณะที่สุขภาพเด็กไทย…ยังต้องได้รับการสร้างเสริม !!

   

ทั้งนี้ จากกิจกรรมสัมภาษณ์ย่อยนักโภชนาการ แพทย์ชาวไทยและต่างประเทศ เรื่อง ธาตุสังกะสีในอาหารประจำวันกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กเนื่องในงานประชุมโภชนาการนานาชาติ ครั้งที่ 10 ที่ประเทศไทย ณ ศูนย์ประชุมไบเทค ระหว่างวันที่ 4-9 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจัดโดยสมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย สมาพันธ์โภชนาการนานาชาติ และบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) ก็มีประเด็นน่าสนใจ

   

สังกะสีนั้นทำหน้าที่เป็นตัวกำกับการทำงานของร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์กรดนิวคลิอิกและโปรตีนเอนไซม์ในร่างกายมากกว่า 100 ชนิด อาจกล่าวได้ว่าเอนไซม์ที่เป็นสาระสำคัญในการเกิดปฏิกิริยาภายในร่างกายเกือบทุกชนิดต้องการสังกะสี สังกะสีจึงสำคัญต่อการทำงานของทุกอวัยวะ

   

จากการเปิดเผยงานวิจัยเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจากการขาดแร่ธาตุสังกะสี ศ.ดร.เคนเนธ บราวน์ กุมารแพทย์ และนักวิชาการสาขาโภชนาการ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ระบุว่า… เด็กในประเทศไทยโดยเฉลี่ยมีระดับการขาดแคลนธาตุสังกะสีในระดับกลาง ๆ โดยคิดเป็นร้อยละ 11.9% แต่ก็มีส่วนที่ขาดในระดับสูง คือเด็กในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทำให้มีภาวะแคระแกร็นและน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์

   

การได้รับธาตุสังกะสีอย่างเพียงพอสำคัญต่อสุขภาพและ  พัฒนาการของเด็ก การเสริมธาตุสังกะสีช่วยให้เด็กเจริญเติบโตทั้งด้านส่วนสูงและน้ำหนัก ช่วยลดภาวะแคระแกร็น ผลการวิจัยชี้ว่าการเสริมธาตุสังกะสีในเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคท้องร่วงได้เกือบร้อยละ 27 และลดการเกิดโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน (คล้ายปอดบวม) ได้อย่างน้อยร้อยละ 15

   

นอกจากนี้ ศ.ดร.เคนเนธ บราวน์ ยังระบุอีกว่า… การวิจัยพบว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยนมมารดาจนอายุ 6 เดือนจะมีโอกาสได้รับธาตุสังกะสีอย่างเพียงพอ จึงควรสนับสนุนการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดา

   

ด้าน ศ.ดร.โรซาลินด์ กิ๊บสัน นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยโอตาโก นิวซีแลนด์ เสริมว่า… อาหารที่มีธาตุสังกะสีสูงนั้นมี อาทิ หอยนางรม เนื้อแดง ไก่ ปลา ไข่ นม โดยเฉพาะ น้ำนมมารดา จึงควรให้นมมารดาแก่ทารกจนอายุ 6 เดือน จากนั้นจึงเพิ่มอาหารอื่น ๆ ที่ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุสังกะสีได้ ซึ่งสำหรับประเทศไทยที่รับประทานข้าวเป็นหลัก และมีธาตุสังกะสีต่ำ ก็ควรเพิ่มอาหารที่มีธาตุสังกะสีในอาหารประจำวัน

   

และการปรับปรุงธัญพืช เช่น เพิ่มปุ๋ยที่มีธาตุสังกะสีเพื่อเพิ่มธาตุสังกะสีแก่ข้าวที่ปลูกด้วยดินที่มีธาตุสังกะสีต่ำ หรือการพัฒนาพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณธาตุสังกะสีในธัญพืชที่เป็นอาหารหลัก ก็เป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะช่วยป้องกันการขาดธาตุสังกะสีให้แก่ประชากรได้” …ศ.ดร.โรซาลินด์ กิ๊บสัน กล่าว

   

ขณะที่ รศ.พัตธนี วินิจจะกูล นักวิชาการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ก็บอกว่า… สำหรับประเทศไทย   เราควรให้ความสำคัญในเรื่องมาตรการด้านอาหารในการส่งเสริมให้เด็กทั่วประเทศมีโอกาสที่จะเติบโตและพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย

   

ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านการเกษตร อาหาร และอื่น ๆ ต้องให้ความสำคัญในการผลิตอาหารพื้นฐานที่มีธาตุสังกะสี และสารอาหารอื่น ๆ สูง ในราคาที่ซื้อหาได้” …รศ.พัตธนี วินิจจะกูล ระบุ

   

มองประเทศพัฒนาแล้ว…แล้วย้อนมองไทยเรา

   

เด็กไทยรุ่นใหม่…จะให้มีอายุยืน 100 ปีก็ทำได้

   

เพียงแต่…ผู้ใหญ่ทุก ๆ ฝ่ายต้องช่วยกันทำ !!!.

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Update:02-11-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

 


Shares:
QR Code :
QR Code