เครือข่ายฯต้าน‘ประชุมบุหรี่โลก’ในไทย
ปรึกษาแก้ไขเรื่องบุหรี่
เครือข่ายฯ จับมือ สสส.คัดค้านงานแสดงสินค้ายาสูบ TABINFO EXPO 2009 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 11-13 พ.ย.นี้ เหตุ ต้องการใช้ไทยเป็นเวทีแสดงวิวัฒนาการของการผลิตยาสูบ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายข้อห้ามใดๆ หวังขยายตลาดทั่วเอเชีย ศ.เกียรติคุณนพ.ประกิต ระบุขณะนี้มีบุหรี่แบบใหม่ทั้งแบบเจล-เคี้ยว-สูบโดยใช้ไฟฟ้าแบตเตอรี่ กำลังระบาด ล่าสุดมีการแอบลักลอบนำเข้ามาในไทยแล้ว
ศ.เกียรติคุณนพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง เสริมสุขภาพ (สสส.) และเครือข่าย งดสูบบุหรี่ ในการคัดค้านการจัดงาน TABINFO EXPO 2009 หรืองานแสดง สินค้ายาสูบแบบครบวงจรของบริษัทบุหรี่ชั้นนำที่จะจัดขึ้นในเมืองไทย ระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายนนี้ เนื่อง จากเป็นเวทีที่นำผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบตั้งแต่การปลูกใบยาสูบ การเตรียม ใบยาสูบ เครื่องจักร ส่วนประกอบในการผลิต เช่น กระดาษมวนยาสูบ สารเคมีที่ผสม การออกแบบซองบุหรี่ให้ ดึงดูดความสนใจรวมถึงการทำการตลาด ประเด็นสำคัญคือ บริษัทบุหรี่เหล่านี้จะทำการตลาดอย่างไรให้ประสบความสำเร็จภายใต้สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ทำกับประเทศ ต่างๆ และแต่ละประเทศที่มีกฎหมายข้อห้ามอย่างเคร่งครัดในเรื่องบุหรี่ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีความเข้มงวด โดยบริษัทบุหรี่มีเอกสารภายในระบุชัดเจนว่า “ถ้าชนะประเทศไทยได้ก็จะชนะทั้งโลก” เพราะเอเชียเป็นตลาดบุหรี่ที่ใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในโลก
ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว บริษัทบุหรี่ชั้นนำจะหารือถึงเรื่องการผลิตยาสูบชนิดใหม่ๆ ออกมา เพื่อหลีกเลี่ยง หรือเอาชนะกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เช่น ยาสูบชนิดไม่มีควัน ยาสูบชนิดเจล ยาสูบเคี้ยวในปาก ยาสูบ ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ซึ่งทั้งหมดล้วนมีนิโคตินผสมอยู่ทั้งสิ้น สำหรับประเทศไทยบุหรี่ชนิดใหม่เหล่านี้มีการแอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมายเพราะกฎหมาย ไทยไม่อนุญาตให้นำเข้าโดยคณะกรรม การควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติมี มติไม่อนุญาตให้นำเข้ามาวางจำหน่ายเด็ดขาดแต่ก็ยังมีการลักลอบจำหน่ายผ่านทางเว็บไซต์
ศ.เกียรติคุณนพ.ประกิต กล่าวถึงรูปแบบของการคัดค้านการประชุมในครั้งนี้ ว่า จะมีหลากหลายรูปแบบกล่าว คือ กระทรวงสาธารณสุขจะไปดูแลไม่ให้การประชุมทำผิดกฎหมายควบคุมยาสูบ เช่น ห้ามโฆษณาส่งเสริม การขาย ห้ามโชว์ผลิตภัณฑ์ ห้ามสูบบุหรี่ในที่ประชุมและการจัดนิทรรศการ ส่วนรัฐบาลก็จะไปดูแลให้หน่วยราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติตามมาตรา 5.3 ของอนุสัญญาควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลกที่ห้ามไม่ให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ไปยุ่งเกี่ยวจัดกิจกรรมกับธุรกิจยาสูบ ที่สำคัญในส่วนของภาคเอกชนและเครือข่ายวิชา ชีพบุคลากรด้านสาธารณสุขที่มีอยู่ประมาณ 4 แสนคน เราจะให้ความรู้และติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด โดยจะทำหนังสือเวียน ล่ารายชื่อคัดค้าน การจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของเราโดยจะนำหนังสือการคัดค้านพร้อมรายชื่อส่งมอบให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้วย
“การจัดงานครั้งนี้มันเหมือนกับการมาใช้ไทยเพื่อไปทำร้ายคนทั้งโลก ถ้าเราเฉยๆ ก็เหมือนกับเราไม่ทำหน้าที่ ในช่วงนั้นเราจะจัดประชุมเครือข่ายรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ในภาคพื้นเอเชียคู่ขนานไปด้วย เพื่อคัดค้านและเฝ้าระวังธุรกิจยาสูบ” ศ.เกียรติคุณนพ.ประกิต กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามธุรกิจ
Update 29-10-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อัญณิกา กฤษสมัย