เครือข่ายพลังชุมชน กทม. ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
พร้อมเดินรณรงค์สะท้อนผลกระทบน้ำเมา
เครือข่ายพลังชุมชน กทม. ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 7 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนวัดเศวตฉัตร ชุมชนหลังไปรษณีย์สำเหร่ ชุมชนซอยพระเจน ชุมชนสวนอ้อย ชุมชนมัสยิดมหานาค ชุมชนมาตานุสรณ์ และเครือข่ายสหกรณ์สามล้อเอื้ออาทรเพื่อคนจน จำกัด ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิง ดำเนินโครงการสร้างเสริมเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ผลจากการดำเนินงานของแกนนำชุมชน พบว่า สถานการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวชุมชนอย่างรุนแรง และฝังรากลึกอย่างน่าเป็นห่วง จนพูดได้ว่าผลกระทบเกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ปัญหาครอบครัว ปัญหาสุขภาพ ปัญหาการทะเลาะวิวาท ปัญหาเยาวชนกลุ่มเสี่ยง และแม้กระทั่งเหตุการณ์ไฟไหม้บ้าน จากการดื่มเหล้าจนขาดสติของคนในชุมชน นำมาซึ่งความประมาท จนเกือบจะทำให้ชุมชนทั้งชุมชนวอดวาย ไม่มีที่ซุกหัวนอน เหล่านี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้วใน 7 ชุมชน และกลายเป็นภาพที่คุ้นชิน หมิ่นเหม่ต่อความล่มสลายของชุมชน
จนกระทั่งโครงการดังกล่าวได้เข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทั้ง 7 พื้นที่ สถานการณ์ปัญหาก็เริ่มเปลี่ยนไป นายจะเด็จ เชาว์วิไล ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อนหญิงกล่าวว่า “ผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหา และรู้ถึงการจัดการชุมชนและวิถีชีวตใหม่ สามารถเอาชนะอุปสรรคและความท้าทายที่ฝังรากลึกมานาน ด้วยกระบวนการกลุ่ม แบบมีส่วนร่วม โดยเริ่มจากร่วมกันค้นหาปมปัญหาที่แท้จริง ร่วมคิดวิเคราะห์ แยกแยะ และสร้างความตระหนักร่วม กระบวนการเสริมพลังซึ่งกันและกัน ตลอดจนการศึกษาดูงาน ที่สำคัญคือการผลักดันให้เกิดคนต้นแบบ พื้นที่ต้นแบบ และสร้างเครือข่ายคนเลิกเหล้า เป็นแกนนำในการทำงานอย่างเป็นระบบ” “สำหรับกิจกรรมในวันนี้ก็เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการขับเคลื่อนขบวนของชุมชน ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ่อเมืองของชาวชุมชน จะมีส่วนสำคัญยิ่งในการหนุนเสริมและทำให้ความหวังของชาวชุมชน ที่อยากเห็นกรุงเทพฯเป็นเมืองที่ปลอดภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการควบคุมตามกฎหมาย โดยเฉพาะพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจริงขึ้นมาได้ และย่อมส่งผลให้ปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ในชุมชนลดลงตามไปด้วย” นายจะเด็จกล่าว
นางประนอม เภตา ผู้ประสานงานเครือข่ายพลังชุมชน กทม. ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า เครือข่ายพลังชุมชน กทม. ลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอยื่นข้อเสนอของผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยหวังให้กรุงเทพฯเป็นเมืองควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนี้ 1) ขอให้ กทม.เร่งรัดบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานคร อย่างเป็นรูปธรรม 2) ขอให้ กทม. มีแผนแม่บทในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการจัด Zoning สถานบันเทิง แหล่งอบายมุขทุกรูปแบบ ให้ห่างไกลจากสถาบันการศึกษา 3) ขอให้ กทม. เร่งสร้างข้าราชการต้นแบบ ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมีแผนรณรงค์ ในการลด ละ เลิก ต่อชุมชนและทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง 4) ขอให้สถานที่ราชการ กทม. ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยกำหนดให้สถานที่ในความรับผิดชอบโดยตรงของ กทม. อาทิ สวนสาธารณะ โรงเรียนในสังกัด กทม. สถานบริการสาธารณะสุข ในสังกัด กทม. ฯลฯ ให้เป็นพื้นที่ปลอดแอลกอฮอล์ 100 %
“วันนั้นคนในชุมชนของเราเกือบไม่มีที่ซุกหัวนอน ตกใจกันทั้งชุมชน เพราะเกิดเหตุไฟไหม้แค้มป์คนงานก่อสร้าง ใกล้กับชุมชน ห้องพักคนงานวอดไปกว่า 90 ห้อง เดชะบุญที่ไฟไม่ได้ลามมาถึงชุมชน เมื่อสอบถามที่มาที่ไปก็พบว่า ลูกชายของคนงานในแค้มป์ก่อสร้างแอบขโมยเงินของแม่ไปซื้อเหล้า เมากลับมา โดนต่อว่าจากผู้เป็นแม่ จึงประชดด้วยการเผาบ้าน กลายเป็นโศกนาฏกรรม ที่พวกเราจดจำมาถึงทุกวันนี้ ขบวนรณรงค์ของเครือข่ายเราในวันนี้ ตั้งใจสะท้อนผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในหลายมิติ แต่ชุมชนสวนอ้อยได้นำเรื่องราวไฟไหม้บ้าน ต้นเหตุจากน้ำผลาญสติมานำเสนอ ซึ่งเชื่อว่าคนเมาเขาจะทำสิ่งที่เลวร้ายได้มากกว่าเผาบ้านตัวเอง” นางประนอม กล่าวเพิ่มเติม
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
Update 07-10-51