เครือข่ายต้านเหล้าจี้รัฐงัดไม้เด็ดคุม
เกี่ยวกับอุบัติเหตุเทศกาลในช่วงสงกรานต์ นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ให้ทัศนะว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อให้การเล่นน้ำ สนุกสนานรื่นเริงและปลอดภัย ภาคีเครือข่ายต่างๆ จึงร่วมรณรงค์สร้างความตระหนักต่อปัญหาสงกรานต์ที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงการฟื้นฟูประเพณีอันดีงามของไทย ที่สำคัญรณรงค์ให้รับรู้ถึงมาตรการ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในรถและท้ายกระบะหรือที่สาธารณะ
“สงกรานต์ปีที่ผ่านมา มีคนเสียชีวิตมากถึง 373 ราย ซึ่ง 40.66% มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ในรถหรือท้ายกระบะ อาจเป็นการสังเวยชีวิตในเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ เพราะหากดูจากผลวิจัยของศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทยชี้ชัดว่า ในรถที่มีคนนั่งท้ายกระบะ 10 คน มีความเสี่ยงต่อการพลิกคว่ำ 2 เท่า ถ้าลุกขึ้นยืน 10 คน จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า และหากดื่มแอลกอฮอล์ จะมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว อย่างไรก็ตามภาคประชาชนยังหวังว่ารัฐบาลจะหยิบเรื่องนี้มาทบทวนกันอย่างจริงจังเพื่อเป็นอีกหนึ่งมาตรการในการลดอุบัติเหตุจราจรที่มีสาเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” นายธีระ กล่าว
นายอำนาจ โภชนภักดี ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงตอนนี้คือเด็กและเยาวชนเป็นนักดื่มหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพราะจากบทเรียนสงกรานต์ที่ผ่านมา พบว่าการทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท ลวนลาม เกิดขึ้นแทบทุกพื้นที่ โดยมีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ขณะเล่นน้ำสงกรานต์ หรือดื่มบนท้ายกระบะ นอกจากนี้ยังพบว่าการแต่งกายไม่เหมาะสมซึ่งกลายเป็นเรื่องปกติในหมู่วัยรุ่น รวมถึงการเปิดเพลงเสียงดัง แล้วเต้นแบบสุดเหวี่ยง ซึ่งการกระทำดังกล่าวล้วนทำลายวัฒนธรรมอันดีงามแทบทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำหนดมาตรการแก้ไขอย่างจริงจัง
ที่มา : สำนักข่าว สสส.
Update : 07-04-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่