เครือข่ายต้านการพนัน วอน พม. เป็นเจ้าภาพช่วยเยาวชนพ้นพนัน
เครือข่ายต้านการพนันร่วมกับองค์กรสตรีและเด็ก วอน พม. เป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาลดการพนัน ชี้หลังบอลยูโรจบหนี้พนันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ หวั่นเยาวชนถูกบังคับกลายเป็นโจร ขณะที่เด็กหญิงเข้าสู่ธุรกิจค้ากาม แนะตั้งกองทุนเยียวยาสังคม-เร่งฟื้นฟูเหยื่อเผยอุตสาหกรรมการพนันโลกขยายฐานมาเอเชีย พบเติบโตสูงกว่าภูมิภาคอื่นเฉลี่ยเกือบ 20% ทุกปี
ที่สำนักปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) วันที่ 2 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน เครือข่ายผู้ปกครองในสถานศึกษา เครือข่ายเยาวชนไม่พนัน มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชนและมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กว่า 30 คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนายวิเชียร ชวลิต ปลัด พม. เรียกร้องให้ พม.เป็นเจ้าภาพหลักในการรณรงค์ลดการพนันทุกรูปแบบ รวมถึงให้มีมาตรการแก้ไขปัญหา ฟื้นฟู ผู้ติดพนันที่อยากเลิก พร้อมเสนอแนวทางจัดตั้งกองทุนเยียวยาสังคมลดปัญหาการพนัน
นางฐาณิชชา ลิ้มพานิช ผู้จัดการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า เมื่อศึกบอลยูโรจบสิ้นลงจะเกิดศึกใหม่ตามมา คือการทวงหนี้พนันบอลของเจ้าหนี้ที่มีความรุนแรงหากไม่มีเงินจ่าย คนที่ต้องตกเป็นเหยื่อสุดท้ายคือภรรยา ลูกๆ ดังนั้นเพื่อเป็นการเร่งแก้ไขปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นเครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องเพื่อให้ พม. นำไปพิจารณาดังนี้ 1.ขอให้เป็นเจ้าภาพหลักในการรณรงค์ลดการพนันทุกรูปแบบ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องอาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น 2.ศึกษาแนวทางเพื่อออกมาตรการฟื้นฟู ช่วยเหลือผู้ติดพนันที่อยากเลิก รวมถึงพิจารณาการจัดตั้งกองทุนเยียวยาสังคมลดปัญหาการพนันเป็นการเฉพาะ และ 3.เครือข่ายฯ ขอให้รัฐบาลยุตินโยบายหารายได้ด้วยการเพิ่มพื้นที่พนัน เพิ่มปัญหาสังคม อาทิ หวยบนดิน หวยออนไลน์ รวมถึงการเปิดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเครือข่ายฯ จะเดินหน้าคัดค้านเรื่องดังกล่าวทุกวิถีทาง
“อยากให้เร่งออกมาตรการและมียุทธศาสตร์ป้องกัน คุ้มครองเด็ก ครอบครัวทุกรูปแบบ และเชื่อว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะแก้ไขปัญหานี้ได้ เนื่องจากเรื่องยาเสพติดที่กระทรวงกำลังทำอยู่สามารถนำแนวทางเดียวกันมาใช้แก้ปัญหาเรื่องการพนันได้เห็นได้จากตัวอย่างปัญหาเยาวชนที่ต้องกลายเป็นเหยื่อพนันบอล ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมาทั้งการขโมยของ หรือที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือการขายบริการทางเพศ เท่าที่สอบถามเครือข่ายผู้ปกครอง พบว่าระยะนี้สัดส่วนการลักขโมยเพิ่มสูงขึ้น” นางฐาณิชชากล่าว
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า ปัญหาการพนันฟุตบอลได้แพร่หลายสู่ทุกวงการ ทุกชนชั้น ทุกเพศ ทุกวัย เกรงว่าสถิติคดีอาชญากรรมจะเพิ่มสูงขึ้น จึงหวังว่าจะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเล่นพนันเป็นแสนๆ ล้าน โดยที่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลปัญหาอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ภาคประชาชนหวังมาโดยตลอดว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนถึงผลกระทบรุนแรงที่เกิดจากการพนัน และพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพหลักดูแลปัญหานี้โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาข้อมูลทางการแพทย์ก็ระบุชัดเจนแล้วว่าโรคติดพนันสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการทำพฤติกรรมบำบัดและฟื้นฟูเยียวยา
ด้านนายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า ข้อมูลจากศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมพนันในภูมิภาคเอเชียมากกว่าภูมิภาคอื่นซึ่งในปี 2010 มีมูลค่าสูงถึง 34,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้น 49.7% และมีการคาดการว่าตลาดพนันในภูมิภาคนี้รวมประเทศไทยอยู่ด้วย จะมีมูลค่าสูงถึง 79,262 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2015 เฉลี่ยโต 18.3% ต่อปี จึงไม่แปลกว่ามีการคิดค้นการพนันรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะบรรดาออนไลน์ทั้งหลายที่จะดึงเอาเด็กและเยาวชนไปเป็นเหยื่อรวมถึงการผลักดันให้จัดตั้งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีสิงคโปร์และมาเลเซียนำร่องไปแล้ว เชื่อว่าเป็นแรงกดดันต่อรัฐบาลด้วย
ขณะที่นายวิเชียร ชวลิต ปลัด พม. กล่าวว่า การพนันอยู่คู่กับสังคมไทยมานาน สิ่งที่ พม.รณรงค์มาโดยตลอดคือการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชน ซึ่งสิ่งที่ทางเครือข่ายฯ ทำกันทุกวันนี้ถือว่ามาถูกทางแล้ว ส่วนข้อเสนอของทางเครือข่ายฯ ที่จะให้กระทรวง พม.เป็นเจ้าภาพหลักในการแก้ปัญหาพนันนั้น ยังมีรายละเอียดหลายอย่างขอรับเรื่องไปหารือกับรัฐมนตรีต่อไปส่วนการฟื้นฟูผู้ติดการพนัน ขณะนี้ทาง พม.ได้ดูแลอยู่แล้ว และขอบคุณเครือข่ายฯ ที่ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ เนื่องจากโดยส่วนตัวแล้วเข้าใจว่าปัญหาพนันค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นกับเยาวชนและผู้หญิง เพราะหน้าที่ดูแลเรื่องการเงินในครอบครัวเป็นของผู้หญิง หากเกิดปัญหาขึ้นจะทำให้กระทบต่อความมั่นคงในครอบครัวได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์