“เขาประทับช้าง เทรล”เส้นทางวิ่งสัมผัสธรรมชาติ

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ



แฟ้มภาพ


เรียกว่าได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีสำหรับงานวิ่ง "เขาประทับช้างคอมเพรสสปอร์ต เทรล 2016" ที่มียอดผู้ร่วมสมัครกว่า 4,500 คน หลังจากเปิดรับสมัครเพียงไม่กี่นาที ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเอาใจใส่สุขภาพของคนไทยที่มีเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน


"เขาประทับช้าง คอมเพรสสปอร์ต เทรล 2016" ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกิดจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีบ้านจอมบึงมูลนิธิวิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง กลุ่มนักวิ่งอาสาสมัคร โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย รวมถึงหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อการส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของคนรักสุขภาพ โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 19 มิถุนายน 2559 ณ สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีบ้านจอมบึง เขาประทับช้าง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยแบ่งการวิ่งออกเป็น 5 ระยะ ได้แก่ ระยะ 10, 21, 32 กม. รวมถึงระยะ 2 กม.และ 3 กม.


นายณรงค์ เทียมเมฆ ผู้ทรงคุณวุฒิ แผนส่งเสริมกิจกรรมทางกายสสส. อธิบายถึงการวิ่งเทรลว่า เป็นการวิ่งในเส้นทางธรรมชาติ มีจุดเด่นคือเป็นเส้นทางที่มีทั้งทางราบ ทางชัน และได้ปีนป่ายฉะนั้นนักวิ่งจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เพราะทุกย่างก้าวมีทั้งก้อนหิน ขอนไม้ กิ่งไม้ เถาวัลย์อีกทั้งยังต้องมีการเตรียมร่างกายให้พร้อมโดยการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และศึกษาวิธีวิ่งเทรลอย่างถูกต้อง เช่น การโยกตัวให้ถูกจังหวะ การวางเท้า การเอียงตัว การสังเกต สิ่งเหล่านี้นักวิ่งต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายหรืออาการบาดเจ็บขณะวิ่ง


ผู้ทรงคุณวุฒิ แผนส่งเสริมกิจกรรมทางกาย สสส. ยังบอกอีกว่า สำหรับการวิ่งเทรลในปีนี้ได้ปรับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อให้เกิดความหลากหลาย เช่น เปิดเส้นทางใหม่ เปลี่ยนเส้นทางวิ่งขึ้นเป็นทางลงในบางจุด ได้วิ่งผ่านสวนสัตว์สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเขาประทับช้าง และพิเศษสำหรับนักวิ่งเทรลหน้าใหม่ 200 คน ยังได้รับสิทธิเข้าร่วม เมจิ ไฮโปรตีน เทรนนิ่งแคมป์ (Meji High Protein Training Camp) ที่จัดขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่วิ่งเทรลครั้งแรก ได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติวิธีวิ่งเทรลอย่างถูกต้อง โดยการเทรนจากกลุ่มนักวิ่งอาสาสมัคร เป็นระยะเวลา 1 เดือน


"กลุ่มนักวิ่งอาสาสมัครมีบทบาทสำคัญต่องานวิ่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากเพราะล้วนแต่เป็นนักวิ่งที่มีประสบการณ์ จึงรู้ว่านักวิ่งต้องการอะไร ทั้งในการออกแบบระบบการจัดงาน นำระบบโลจิสติกส์มาใช้ในสนามวิ่งเพื่อให้ทุกอย่างสามารถเชื่อมต่อหากันได้ ทำให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักวิ่งอย่างเต็มที่ โดยยึดหลัก 'นักวิ่งคือคนสำคัญที่สุด'เราจึงต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด ฉะนั้นการเตรียมงานจึงต้องพร้อมและได้มาตรฐานเพื่อให้นักวิ่งทุกคนประทับใจ" นายณรงค์ ย้ำถึงการเตรียมความพร้อม


ขณะที่ ผศ.ดร.โสภณ พวงสุวรรณ ประธานกรรมการมูลนิธิวิทยาลัยหมู่บ้านจอมบึง อธิบายถึงที่มาของการจัดงานในครั้งนี้ว่า เริ่มจากการงาน "จอมบึงมาราธอน" ในปี 2529 และในปี 2531 ได้เพิ่มกิจกรรมการวิ่งและปั่นจักรยานที่ "สวนพฤกษศาสตร์วรรณคดีบ้านจอมบึง" โดยใช้วโรกาสภายหลังจากที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จฯไปทรงเปิดสวนฯ ภายใต้ชื่องานว่า "วิ่งชมสวนมวลไม้ในวรรณคดี"และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "เขาประทับช้างเทรล" ในปี 2558 และในปี 2559 จึงนับเป็นการจัดงานวิ่งมาอย่างต่อเนื่องกว่า 28 ปี


ด้าน นายสิทธิโชค พหลพิพัฒน์นักวิ่งอาสาสมัครที่มีประสบการณ์วิ่งมานานกว่า 3 ปี  เล่าถึงการเข้ามาเป็นอาสาสมัครในครั้งนี้ว่า อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้วงการวิ่งดีขึ้นและมีมาตรฐาน โดยนักวิ่งอาสาฯ มีทั้งหมด 50 คน แบ่งการทำงานเป็นฝ่ายตามความถนัด ทั้งส่วนเทรนนิ่งดูแลนักเรียนแคมป์ สำรวจเส้นทางวิ่ง และดูแลนักวิ่งรั้งท้าย นักวิ่งอาสาฯทุกคนอยากมาเป็นผู้ให้ เพราะเคยเป็นนักวิ่งหน้าใหม่มาก่อน จึงอยากแบ่งปันความรู้และวิธีการวิ่งที่ปลอดภัย อยากเห็นนักวิ่งหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกันสร้างวงการวิ่งให้สนุกสนาน ซึ่งตนยังรับหน้าที่เป็นครูเทรนนิ่งแคมป์ และดูแลนักวิ่งรั้งท้ายระยะ10 กม. ในวันแข่งจริง


ส่วน นางสาวชาศิริ มโนมัยวจีนักวิ่งเทรลแรกหน้าใหม่ ในระยะทาง10 กม. บอกเล่าถึงความสนใจ ที่เลือกเขาประทับช้างเป็นสนามวิ่งเทรลครั้งแรกให้ฟังว่า งานวิ่งเขาประทับช้างฯ ที่สสส. ให้การสนับสนุนนั้นได้รับคะแนนรีวิวดีสำหรับการจัดงานวิ่งในปีที่แล้วอีกทั้งคำบอกเล่าประสบการณ์ของเพื่อนนักวิ่งการันตีมาตรฐาน ทั้งการจัดงาน การบริการ จึงอยากมาลองสัมผัสด้วยตัวเอง นอกจากนั้นตนยังได้เข้าร่วมเทรนนิ่งแคมป์ในการเตรียมความพร้อม ร่างกาย การบริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่ได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน ทำให้มีวินัยในการฝึกซ้อมมากขึ้น ซึ่งเป็นการจัดงานที่ดี และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึง


นอกจากจะได้วิ่งสัมผัสธรรมชาติเติมเต็มความสุขทั้งทางกายและจิตใจ ทุกก้าวอย่างยังต้องมีสติตลอดทั้งเส้นทางเรียกได้ว่าเป็นการสร้างเสริมสุขภาพดีครบถ้วนทั้งร่างกาย และจิตใจกันเลยทีเดียว

Shares:
QR Code :
QR Code