เกษตรพันธสัญญา ใครอิ่ม ใครอด?

เครือข่ายเกษตรพันธสัญญา เผย “ภาคธุรกิจ” ขูดรีด “เกษตรกร” ผ่านข้ออ้าง “เกษตรพันธสัญญา” วอนรัฐบาลทำตามสัญญา แก้ปัญหาเร่งด่วน เตรียมจัดสัมมนา “เกษตรพันธสัญญา ใครอิ่ม ใครอด?” 26-27 มิ.ย.นี้ ตีแผ่ปัญหาความไม่เป็นธรรม 

“เกษตรพันธสัญญา ใครอิ่ม ใครอด?”

นายไพสิฐ พานิชย์กุล นักวิชาการด้านกฎหมายมหาชนจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การวิจัยพบว่าเกษตรพันธสัญญา ซึ่งเชื่อกันว่าจะเป็นเครื่องมือที่สามารถยกระดับรายได้ของเกษตรกรให้ดีขึ้นได้ แต่ “สัญญา” ดังกล่าว กลับกลายมาเป็นเครื่องมือในการขูดรีดเกษตรกร ทั้งๆที่สัญญาที่ทำขึ้นภายใต้เงื่อนไขเกษตรพันธสัญญานั้นไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาเกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ตรงไปตรงมาของบริษัทและยังแอบแฝงด้วยเล่ห์กลบางอย่างของบริษัทที่เข้ามาทำสัญญากับเกษตรกร ส่งผลให้เกษตรกรยิ่งทําตามสัญญาก็ยิ่งเป็นหนี้เป็นสินเพิ่มขึ้น ดังนั้น ทางรอดของเกษตรกรจะต้องมีการรวมกลุ่มและมีฐานข้อมูลประกอบการตัดสินใจ โดยต้องคิดบนพื้นฐานความเป็นไปได้ของข้อสัญญาต่างๆ ก่อนการทำสัญญากับบริษัทต่างๆ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์จากบริษัทเจ้าเล่ห์ทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม เกษตรพันธสัญญายังมีข้อดีอยู่มาก หากนำไปใช้อย่างถูกวิธี และไม่เห็นด้วยหากจะยกเลิก เพราะถ้าทำอย่างถูกต้อง และบริษัทดําเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามสัญญากับเกษตรกร เกษตรพันธสัญญาก็จะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง

นายไพสิฐ พานิชย์กุล นักวิชาการด้านกฎหมายมหาชนจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

“เกษตรกรหลายรายตัดสินใจเข้าทำสัญญาด้วยความคิดว่าเหมือนเป็นการซื้อหวยเพราะ ข้อสัญญาต่างๆ และการโฆษณาจูงใจเขาให้เห็นแต่ผลประโยชน์ที่จะได้ ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลเกษตรกรให้มากขึ้น โดยใช้ตัวสัญญาเป็นเครื่องมือจัดความสัมพันธ์และแบ่งปันผลประโยชน์ คำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยโดยไม่ต้องอิงกับต่างประเทศ และที่สำคัญจำเป็นต้องพัฒนาระบบยุติธรรมชุมชนมารับใช้ในระบบเกษตรพันธสัญญา เพื่อแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมด้วย” นายไพสิฐ กล่าว

นายอุบล อยู่หว้า ผู้ประสานงานคณะทำงานเครือข่ายเกษตรพันธสัญญา กล่าวว่า ในวันที่นายกรัฐมนตรีมาประชุม ครม.สัญจรที่เชียงใหม่ ได้มีการเรียกร้องให้รัฐตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาและแก้ไขปัญหาเกษตรพันธสัญญา โดยมี รมว.เกษตรฯ เป็นประธาน โดยหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมรับฟังข้อเรียกร้องเกษตรกรและพัฒนากลไกระดับท้องถิ่นต่อไป และเพื่อให้ระบบเกษตรพันธสัญญาเกิดประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์ที่แท้จริง และให้เกษตรกรหลุดพ้นจาการขาดอำนาจต่อรอง เกิดการแก้ปัญหาตลาดสินค้าจากกลไกภาครัฐอย่างแท้จริง  ตลอดจนควรต้องมีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกรอย่างทั่วถึง  ทั้งนี้ เครือข่ายจะจัดการสัมมนาทางวิชาการในวันที่ 26-27มิถุนายน 2555ที่ห้องประชุมจุมภฎ-พันธ์ทิพย์ อาคารประชาธิปก-รำไพพรรณี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ เพื่อระดมข้อมูลจากการศึกษา และแง่มุมทางวิชาการทั้งด้านกฎหมาย และผลกระทบเชิงสังคม สิ่งแวดล้อม และข้อเท็จจริงจากวิถีชีวิตเกษตรกรที่เกิดภายใต้ระบบการผลิตแบบพันธสัญญา เพื่อร่วมกันพัฒนาข้อเสนอและทางเลือกที่เป็นประโยชน์มากที่สุด เพื่อนําไปใช้ขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างยั่งยืนต่อไป

 

 

ที่มา : team content www.thaihealth.or.th

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code