“ฮู”ชื่นชมไทยเทียบเท่ายุโรป
จัดสวัสดิการรักษาพยาบาลดี
“ฮู” ประเมินค่ารักษาพยาบาลส่งผลให้ประชากรโลกกว่า 100 ล้านคนยากจน จี้รัฐบาลทั่วโลกเร่งพัฒนาระบบสวัสดิการสุขภาพ ยกย่องไทยเทียบเท่ายุโรปจัดสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลดี
องค์การอนามัยโลก (ฮู) เปิดเผยผลการศึกษาฉบับล่าสุดที่ชี้ว่าระบบสวัสดิการสุขภาพที่ครอบคลุมทุกปัญหาสุขภาพประชาชนเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาที่เศรษฐกิจประเทศชะลอตัว และเกิดการระบาดของโรคในระดับนานาชาติ และประชากรสูงอายุของโลกต้องการดูแลรักษาโรคเรื้อรังมากขึ้น
นางมากาเร็ต ฉาง เลขาธิการฮู กล่าวว่า ผู้ป่วยไม่ควรต้องแบกรับความเสี่ยงต่อความล้มเหลวทางการเงินที่เกิดขึ้นจากค่ารักษาพยาบาล ทั้งนี้ ในสมาชิกทั้ง 192 ประเทศของฮูได้ให้สัตยาบันในปี 2548 ว่า ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงการรักษาพยาบาล และไม่มีผู้ใดต้องแบกรับภาระทางการเงินอันเกิดจากการรักษาพยาบาล
ผลการศึกษาล่าสุดของฮูพบว่าทั่วโลกยังไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายตาสัตยาบนที่ได้ให้ไว้ และประเทศที่ขาดสวัสดิการด้านสุขภาพที่พอเพียง ทำให้ประชาชน 100 ล้านคนต่อปีกลายเป็นคนยากจน
ขณะที่ยุโรป ญี่ปุ่น ชิลี เม็กซิโก รวันดาและไทย เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในด้านระบบสวัสดิการด้านสุขภาพแบบรวมที่พยาบาลของประชาชนลงได้เป็นอย่างดี
ปัญหาสำคัญที่ทำให้หลายประเทศไม่สามารถสร้างสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลให้แก่ประชาชน ได้แก่ ระบบการชำระเงินโดยตรง การไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลครบวงจร และการใช้ทรัพยากรด้านการรักษาพยาบาลอย่างไร้ประสิทธิภาพ และไม่เท่าเทียม ซึ่งฮูระบุว่าปัญหาทั้งสามนั้นเหลื่อมกันจนเป็นอุปสรรคใหญ่ของประเทศยากจนที่สุดจนถึงร่ำรวยที่สุด
ฮูประเมินว่าทั่วโลกมีการใช้ทรัพยากรการรักษาพยาบาลโดยสูญเปล่าประมาณ 20 – 40% ขณะที่การลดช่องว่างระหว่างการเข้าถึงทรัพยากรด้านสาธารณสุขใน 49 ประเทศยากจนและร่ำรวยสามารถช่วยชีวิตหญิงตั้งครรภ์ได้มากกว่า 7 แสนคน ภายในปี 2558 และช่วยชีวิตทารกได้กว่า 16 ล้านคน
ฮูยังยืนยันให้ประเทศยากจนใช้เงินงบประมาณ 15% ของงบประมาณประเทศในด้านสาธารณสุข และเพิ่มเงินสมทบกองทุนด้านสาธารณสุขเพิ่มอีกเท่าตัว และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ บริจาคเงินสนับสนุนด้านสาธารณสุขสำหรับประเทศยากจนในระดับที่ให้สัญญาไว้
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีระบบสวัสดิการสาธารณสุขแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้ใช้สิทธิในโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคซึ่งปัจจุบันปรับเป็นการให้บริการรักษาฟรี 47 ล้านคน 2.กลุ่มข้าราชการ ลูกจ้างหน่วยงานรัฐใช้สิทธิสวัสดิการรัฐประมาณ 2 ล้านคน 3.กลุ่มผู้ใช้สิทธิประกันสังคมประมาณ 9 ล้านคน
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
update : 23-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร