อ.พระยืน จ.ขอนแก่น พื้นที่ต้นแบบงานบุญปลอดเหล้า และบุหรี่

 

อ.พระยืน จ.ขอนแก่น พื้นที่ต้นแบบงานบุญปลอดเหล้า และบุหรี่

 

อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ จัดงานบุญมหากฐินสามัคคีปลอดเหล้า เพื่อให้คนในชุมชน อยู่ดีมีสุข ปลอดจากเหล้าและบุหรี่อย่างแท้จริง

นายทนงค์ หัดโนนตุ่น สารวัตรกำนันตำบลหนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น พร้อมผู้นำชุมชนในตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกันรับมอบป้ายรณรงค์งดเหล้าและบุหรี่ในงานบุญ จากนายไพฑูรย์ พรหมเทศ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอพระยืน และผู้ประสานงานประชาคมงดเหล้า จังหวัดขอนแก่น ก่อนจะนำไปติดไว้บริเวณภายในวัดศรีตาลวราวาส หมู่บ้านโนนตุ่น หมู่ที่ 4 ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีถวายกฐินของชาวบ้านในวันนี้ เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนหันมาสนใจเลิกบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่น้อยลง

สารวัตรกำนันตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ตำบลหนองแวง มีจำนวนทั้งหมด 8 หมู่บ้าน โดยประชากรส่วนใหญ่ ยึดอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลงานบุญประเพณีที่สำคัญ มักจะพากันดื่มฉลองจนบางคนขาดสติ จนทำให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น ซึ่งบางครั้งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร ด้วยความตระหนักถึงผลเสียที่เกิดขึ้น ประกอบกับต้องการให้ประชาชนในพื้นที่ หันมาให้ความสนใจเลิกบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่อย่างจริง เพื่อทำให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ให้ปลอดจากสุราและบุหรี่อย่างจริงจัง

ขณะที่ นายไพฑูรย์ พรหมเทศ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอพระยืน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การณรงค์ให้ประชาชนงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และบุหรี่ ถือเป็นนโยบายสาธารณะของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้เริ่มขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน เพื่อต้องการมุ่งหวังให้จังหวัดขอนแก่นเป็นเขตพื้นที่ปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ สังคมอยู่ดี มีสุข และน่าอยู่ที่สุดในโลก

ส่วนในเขตพื้นที่อำเภอพระยืน ได้มีการขับเคลื่อนนโยบายควบคู่ไปพร้อมกับจังหวัดขอนแก่น โดยมีการประกาศเป็นอำเภองานบุญปลอดเหล้า ปลอดบุหรี่ หรือโครงการงานบุญประเพณีปลอดเหล้า-ปลอดบุหรี่

อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น สนองพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการให้ชุมชนทั้ง 53 หมู่บ้าน มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จัดขึ้น เพื่อให้ประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน ได้ซึมซับและตระหนักรู้ถึงผลเสียจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่ด้วยตัวเอง

จากข้อมูลสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า หรือ สคล. ระบุว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมกว่า 156,105 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 1.97 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ ซึ่งสูงกว่ารายได้จากภาษีน้ำเมาที่รัฐได้รับ เพียงปีละ 80,000 บาท และยังพบว่า คนไทยเสียชีวิตจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปีละกว่า 26,000 คน หรือชั่วโมงละ 3 คน และพบว่า อีก 260,000 คนกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่.

 

 

ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า สคล.

Shares:
QR Code :
QR Code