อุบัติเหตุบนถนนฮอต! ตายเกลื่อน 30 กว่าศพ

มอเตอร์ไซค์ ครองแชมป์ เหตุเมาแล้วขับ


 อุบัติเหตุบนถนนฮอต! ตายเกลื่อน 30 กว่าศพ

          เผยคนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเฉลี่ยวันละ 33 คน เพิ่มเป็น 2 เท่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมขับรถเร็ว เมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกกันน็อก

 

          นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ภายใต้มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเฉลี่ยปีละ 12,000 คน หรือวันละ 33 คน และจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์และปีใหม่ โดยพบว่า 1 ใน 3 ของผู้เสียชีวิตจะเป็นกำลังหลักของครอบครัว ร้อยละ 30 ของผู้บาดเจ็บมีอายุต่ำกว่า 20 ปี และในแต่ละปีจะมีผู้พิการรายใหม่กว่า 5,000 ราย

 

          จากการศึกษาพบว่าร้อยละ 80 ของ อุบัติเหตุที่เกิดบนท้องถนนเป็นรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจาก รถจักรยานยนต์ถึง 8,000 คนต่อปี โดยแนวโน้มของอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ในกลุ่มเยาวชนที่อายุน้อยกว่า 15 ปีเพิ่มสูงขึ้น ขณะ ที่การสวมหมวกนิรภัยของผู้ขับขี่ที่เข้ารับการ รักษาเฉลี่ยร้อยละ 14 และเหลือเพียงร้อยละ 4.7 ในผู้ที่ซ้อนท้าย ด้านความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากรายงานของกระทรวงคมนาคมล่าสุดระบุว่า ประเทศไทยมีมูลค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอยู่ที่ 232,845 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นร้อยละ 2.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั้งที่ค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปไม่ควรเกินร้อยละ 1-2 ของจีดีพี

 

          นพ.ธนะพงศ์กล่าวต่อว่า สาเหตุหลักของอุบัติเหตุและการเสียชีวิตส่วนใหญ่ยังเป็นพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับขี่เอง ทั้งขับรถเร็ว เมาแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย ขณะที่มาตรการบังคับใช้กฎหมายจราจรที่เข้มแข็งยังมีเฉพาะบางพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถลดพฤติกรรมของผู้ขับขี่ได้ สำ- หรับปัจจัยด้านการออกแบบผังเมืองและการ ส่งเสริมให้มีระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบ คลุมและปลอดภัย ซึ่งผลการศึกษาขององค์ การอนามัยโลก (who) ชี้ว่าช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ ยังเป็นจุดอ่อนสำคัญของเมืองไทย ทำให้ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่หันมาใช้รถส่วนบุคคล ทั้งรถจักรยานยนต์และรถเก๋งเป็นหลัก

 

          “1 ใน 2 ของการเกิดอุบัติเหตุรุน แรงและเสียชีวิตจะเกิดในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่มีการบังคับใช้กฎหมายน้อยที่สุด จำเป็นต้องเพิ่มสัดส่วนบุคลากรในสายงานจราจร และสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น เครื่องตรวจจับวัดความเร็ว เครื่องตรวจจับการฝ่าสัญญาณไฟ เครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ เพราะถ้าจะเทียบผู้เสียชีวิตจากอาชญากรรมกับอุบัติเหตุทางถนนพบว่าผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงกว่าผู้เสียชีวิตจากคดีอาชญากรรมถึง 4 เท่า”

 

          นพ.ธนะพงศ์กล่าวว่า เพื่อให้การป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผล ศวปถ. เห็นว่าแม้รัฐบาลจะกำหนดให้การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นวาระแห่งชาติ และ มีการผลักดันเรื่องแผนแม่บทศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน แต่จำเป็นต้องมีรูปธรรมในการดำเนินการอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่มีงบประมาณสนับสนุน การมีระบบติดตามกำกับทุกหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบดำเนินการ โดยเฉพาะในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายจราจรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคู่ไปกับการปรับปรุงระบบรถโดยสารสาธารณะให้ได้มาตรฐานความปลอด ภัย พร้อมทั้งมีระบบการเยียวยาผู้ประสบเหตุด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม

 

          สำหรับเป้าหมายคือลดการเสียชีวิตของคนไทยจากอุบัติเหตุลงเหลือ 14.15 ต่อประชากรแสนคนในปี 2555 เพื่อให้สอด คล้องกับนโยบายขององค์การสหประชาชาติที่เสนอให้ทุกประเทศผลักดันให้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นวาระสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญและเร่งแก้ไข โดยตั้งเป้าลดผู้เสียชีวิตลงครึ่งหนึ่งใน 10 ปีข้างหน้า

 

          จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ในแต่ละปีคนทั่วโลกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนประมาณ 1.3 ล้านคน ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บและพิการถึง 50 ล้านคน ทั้งนี้ ร้อยละ 90 ของอุบัติเหตุบนท้องถนนทั่วโลกเกิดในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ-ปานกลาง ซึ่งมักจะเกิดกับกลุ่มที่เปราะบาง ได้แก่ ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ คนเดิน ถนน และการเดินทางด้วยระบบนรถโดยสารสาธารณะที่ไม่ปลอดภัย และประมาณการว่าอุบัติเหตุบนท้องถนนจะเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆของคนทั่วโลกในอีก 10 ปีข้างหน้า

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้

 

 

 

update: 10-11-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย

Shares:
QR Code :
QR Code