อึ้ง! เหล้าทำคนไทยตายชั่วโมงละ 3 คน
ศวส.เตรียมจัดประชุมระดับชาติจัดการปัญหาสุรา
ศวส. เตรียมจัดประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 6 ระดมนักวิชาการ นักวิจัยทั่วโลก หาวิธีจัดการปัญหาสุราในโลกเสรี ชี้ เหล้า ไม่ใช่สินค้าปกติ เหตุทำคนไทยตายชั่วโมงละ 3 คน หวั่นผลกระทบ เยาวชนตกเป็นเหยื่อเพิ่ม เตรียมแจกหนังสือรวมประสบการณ์คุมน้ำเมาฟรี เปิดรางวัลบุคคลต้นแบบ “หมอสมาน” มีผลงานดีเด่นด้านป้องกันภัยจากน้ำเมา
วันที่ 15 พ.ย. ที่โรงแรม เอเซีย ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา(ศวส.) จัดแถลงข่าวการประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 6 เรื่อง “สุราในโลกเสรี” “Alcohol in Globalized World” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 22-23 พ.ย.นี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ โดยดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุทำให้ประชากรโลกตายปีละ 2.5 ล้านราย เป็นคนไทยตายปีละ 2.6 หมื่นราย หรือชั่วโมงละ 3 คน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนอายุ 15-19 ปี มีการดื่มเป็นประจำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น สสส. จึงได้สนับสนุนการจัดประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ซึ่งจัดต่อเนื่องมา 6 ปีแล้ว เพื่อสร้างความร่วมมือจากเครือข่ายวิชาการ นักวิจัย ผู้กำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติงานด้านสุราทั้งในชุมชน ภาคเอกชน องค์กรอิสระทั้งในและต่างประเทศ ระดมความเห็น ในการขับเคลื่อนการจัดทำนโยบาย และมาตรการแก้ปัญหาต่อไป ซึ่งการประชุมวิชาการสุราปีนี้ ได้รับเกียรติจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ “ปฏิรูปนโยบายแอลกอฮอล์ ปฏิรูปอนาคตประเทศไทย” ในวันจันทร์ที่ 22 พ.ย. นี้
นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยปัญหาสุรา(ศวส.) กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมของการผลิตและนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดปี 2552 ไทยนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากทั่วโลกรวม 6,896 ล้านบาท โดยนำเข้าจากสหภาพยุโรปมากที่สุด ราว 80% มีมูลค่า 5,107 ล้านบาท รองลงมาคือ อาเซียน มูลค่า 722 ล้านบาท และออสเตรเลีย 374 ล้านบาท ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้ มีราคาแพง สร้างภาพลักษณ์ไว้หรูหรา น่าทดลอง แต่หากสินค้าเหล้านี้มีราคาถูกลง จะส่งผลให้การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว
นพ.ทักษพล กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ในหลายประเทศ พบว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นสินค้าธรรมดาไม่ได้เพราะทำให้เกิดอัตราการ เจ็บ ป่วย เสียชีวิต และความสูญเสียทางเศรฐกิจอย่างมาก ซึ่งในการประชุมวิชาการครั้งนี้ จะมีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศร่วมเป็นวิทยากรนำเสนอบทเรียนการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาทิ 1.ศ.โทมัส บาร์เบอ (Prof.Thomas Babor – ผู้แต่งหนังสือ ANOC) หัวหน้าภาควิชาแพทย์ศาสตร์ชุมชน มหาวิทยาลัยคอนเน็ตติกัท สหรัฐอเมริกา 2.ดร.เมอร์ลีน อี เบอร์มิงแฮม (Dr.Maureen E. Birmingham) ผูแทนองคการอนามัยโลก ประจํา ประเทศไทย 3.ดร.เปีย มาเคลา (Dr.Pia Makela) จากฟินแลนด์ และ 4.ดร.ซุงซู ชุน (Prof. Dr. Sungsoo Chun) ผู้จัดการสถาบันศึกษาปัญหาแอลกอฮอล์ของเกาหลี เนื้อหาสำคัญ เช่น ประสบการณ์ของประเทศแถบยุโรป ที่บริโภคแอลกอฮอล์สูง แต่เมื่อนำกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาใช้ เช่น มาตรการภาษี เห็นได้ชัดว่าพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไป หรือการใช้ข้อตกลงการค้าเสรีของกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียมาควบคุมปัญหาสุรา นอกจากนี้ จะมีการแจกหนังสือ สุราไม่ใช่สินค้าธรรมดา (Alcohol: No Ordinary Commodity :ANOC) ซึ่งประกอบด้วยองค์ความรู้สนับสนุนมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเรียนรู้จุดอ่อน จุดแข็ง เพื่อนำไปสู่การกำหนดนโยบายต่อไป
ด้านพญ.พันธุ์นภา กิตติรัตนไพบูลย์ ผู้จัดการแผนงานการพัฒนาระบบ รูปแบบ และวิธีการบำบัดรักษาผู้มีปัญหาการบริโภคสุราแบบบูรณาการ (ผรส.) กล่าวว่า ในการประชุมวิชาการสุราแห่งชาติ ครั้งที่ 6 มีการมอบรางวัล “บุคคลต้นแบบในการจัดการปัญหาสุรา” ผู้ได้รับรางวัลคือ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ในการรณรงค์ป้องกันปัญหาแอลกอฮอล์ การบำบัดรักษา โดยรับโล่รางวัลจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งในการประชุม ทางผรส. จะนำเสนอเวทีวิชาการ เรื่อง การพัฒนาระบบ รูปแบบ และวิธีการ บำบัดรักษา ผู้มีปัญหาการบริโภคสุราแบบบูรณาการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก สสส. เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคสุรา หรือป้องกันการกลับมาดื่มซ้ำ และบำบัดรักษาผู้ติดสุราที่เหมาะสมกับบริบทสังคมไทย จากข้อมูลกรมสุขภาพจิต พบว่า ผู้ที่มีอายุระหว่าง 15 – 59 ปี มีปัญหาการติดสุราประมาณ 5 ล้านคน แต่เข้าถึงการบำบัดรักษาเพียง 2 % เท่านั้น ซึ่งผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ในการประชุมวิชาการครั้งนี้
ที่มา : สำนักข่าว สสส.
Update:15-11-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่