อาหารปลอดภัย รับปีใหม่จีน

 

อาหารปลอดภัย  รับปีใหม่จีน

 

เวลานี้คงต้องเอ่ยว่า “ซินเจียยู่อี่ ซินนี่ฮวดใช้”เพราะใกล้วันสำคัญวันหนึ่งของพี่น้องชาวไทยเสื้อสายจีน ที่ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่จีน หรือที่เรารู้จักในชื่อ “เทศกาลตรุษจีน”ในปีนี้ตรงกับวันที่ 23 มกราคม 2555 ซึ่งสิ่งสำคัญหลักของเทศกาลนี้คือการกราบไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วด้วยอาหารมากมาย และหลังจากเสร็จพิธีการต่างๆ อาหารที่ใช้ไหว้ก็จะถูกนำมารับประทานร่วมกันในครอบครัว ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในเรื่องของการบริโภคถึงแม้อาหารเหล่านั้นจะปรุงสุกมาแล้วก็ตาม

ซึ่งเรื่องนี้ นายสง่า ดามาพงษ์ ผู้จัดการโครงการโภชนาการสมวัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และที่ปรึกษากรมอนามัย  กระทรวงสาธารณสุข ได้บอกไว้ว่า เทศกาลตรุษจีน เป็นเทศกาลแห่งการกราบไหว้บรรพบุรุษในวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยจีน ด้วยอาหารคาว หวานต่างๆ นานัปชนิด ซึ่งอาหารที่นำมาไหว้นั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงความสด สะอาด และคุณค่าทางโภชนาการด้วย เพราะหลังจากเสร็จพิธีทั้งหมด เกือบแทบทุกบ้านจะนำอาหารทั้งหมดนั้นมารับประทานร่วมกันทั้งครอบครัว ดังนั้นการใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัยและคุณค่าทางโภชนาการก่อนนำมารับประทานจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก

“การนำเอาอาหารที่ใช้ไหว้บรรพบุรุษมารับประทาน เราจำเป็นต้องระวังในเรื่องของอาหารปนเปื้อน ความสะอาดและตามมาด้วยเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งอาหารตรุษจีนส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่มีไขมันมาก เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง โดยจะเน้นเนื้อสัตว์มากกว่าผัก ดังนั้นอาหารที่ควรใส่ใจเป็นพิเศษก็จะเป็นอาหารจำพวก หมู เป็ด ไก่และปลา”อ.สง่ากล่าว

ดังนั้นเราก็มาเริ่มกันที่อาหารจำพวก หัวหมู หมู 3 ชั้น ก่อนเลย ซึ่ง อ.สง่า บอกว่า หลังจากที่เราใช้ไหว้เสร็จแล้ว เราควรนำหมูไปล้างน้ำสะอาด แล้วจึงนำไปนึ่งซ้ำอีก 1 ครั้ง เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค และนำมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ หรือเอามาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ

“เราอาจนำหมู 3 ชั้นที่เราจะรับประทานมาดัดแปลงด้วยการทำน้ำจิ้มรสเด็ดแล้วรับประทานควบคู่กันไปก็ได้ แต่ต้องพึงระวัง ว่าการรับประทานหมู 3 ชั้น แบบไม่เอามันออกนั้น จะทำให้เราได้รับคลอเรสเตอรอลจำนวนมาก ดังนั้นเราควรทานในปริมาณที่น้อย หรือไม่เราอาจเลาะเอามันออกก่อนแล้วค่อยเอาไปรับประทาน บางบ้านอาจเอาไปทำต้มจับฉ่าย ซึ่งเมนูนี้อาจจะเห็นว่ามีไขมันมาก เพราะมันช่วยเพิ่มความอร่อย แต่น้ำในจับฉ่ายจะทำให้ไขมันที่เข้มข้น ลดลงได้ ซึ่งถือเป็นเมนูที่ดีกว่าอื่นๆ และสุดท้าย เราอาจนำหมู 3 ชั้นมาเจียวให้เหลือแต่กากหมู แต่ถึงแม้จะเจียวแล้วก็อย่ารับประทานมาก เพราะกากหมูก็ยังมีไขมันดี หรืออาจจะเอาไปทำยำ จะทำให้มีผักผสมอยู่ด้วย”อ.สง่า

ที่นี้มาดูในส่วนของ อาหารประเภทไก่ เป็ดกันบ้าง โดย อ.สง่าบอกว่า อาหารพวกเป็ด ไก่ หลังจากที่ไหว้ทั้งตัว ก็รับประทานก็ควรเอาไปล้างเช่นกัน และนำมาคั่วเค็มน่าจะดีที่สุด โดยคั่วทั้งกระดูก โดยไม่ใช้น้ำมันเพราะไก่มีน้ำมันอยู่ในตัวอยู่แล้ว และโรยเกลือ แต่พึงระวัง อย่ารับประทานรสเค็มมากเกินไป เพราะจะทำให้เป็นภาวะความดันโลหิตสูง และใช้สมุนไพรอย่างกระเทียมมาคลุกให้เข้ากัน หรืออยากรับประทานแบบต้มเฉยๆ ก็ได้ แต่ทั้งนี้ ไม่ว่าจะไก่หรือเป็ด ต้องระวัง คอไก่ เป็ด เพราะในส่วนนี้จะมีไขมันสูงกว่าอื่นๆ  และสุดท้ายอาหารพวกปลา ก็เพียงแค่นำมานึ่งหรือทอดซ้ำ ก่อนการรับประทาน เพียงแค่นี้ก็จะได้รับอาหารที่ปลอดภัย

“เพื่อเป็นกุศโลบายในการรับประทานอาหารช่วงตรุษจีน ให้ครบ 5 หมู่ เราควรทานคู่กับน้ำพริกกะปิ เพื่อเราจะได้รับประทานควบคู่ไปกับผักด้วย แต่คงไม่มีใครเอาน้ำพริกไปไหว้เจ้าเพราะไม่ใช่ธรรมเนียม  เพราะนั่นคือการดัดแปลงเพื่อคุณค่าทางโภชนาการ”อ.สง่ากล่าว

นอกจากคุณค่าทางโภชนาการที่กล่าวมาแล้ว อ.สง่ายังบอกอีกว่า ยังมีเรื่องความปลอดภัยของอาหารอีกด้วย เพราะอาหารที่ใช้ไหว้ เราจะตั้งทิ้งไว้ ซึ่งนั่นทำให้มีสิ่งแปลกปลอมหรือพาหะเชื้อโรค อย่าง แมลงวัน แมลงสาบ เดินผ่านอาหาร แมว หมามาสลัดขนใส่  หรือถ้าไหว้ริมถนนก็จะมีทั้งควัน ฝุ่นหรือโลหะหนักตกลงใส่ หากรับประทานเข้าไปอาจเกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วงหรือผลเสียอื่นๆ ต่อร่างกายเราได้

“อาหารที่ปนเปื้อนสารต่างๆ นั้น ต้องขอบอกว่าเจ้าที่มาลงรับประทานคงไม่เป็นไร แต่คนที่เป็นน่าจะเป็นเรา ก่อนที่เราจะรับประทานเราต้องนำมาทำความสะอาดก่อน เอาฝุ่นต่างๆ ออกให้หมดและทำให้อาหารอุ่นอีกรอบ นอกจากนี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือ ขี้ธูป ที่จะหล่นใส่อาหาร เพราะในนั้นอาจมีโลหะหนักปะปนอยู่ อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้  ดังนั้นควรปักธูปให้ห่างจากอาหารเล็กน้อยด้วย”อ.สง่ากล่าว

เมื่อรู้แนวทางป้องกันแบบนี้แล้ว อีกทั้งวิธีการก็ไม่ได้ยาก เราจึงควรหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองให้มากขึ้น เพราะเชื้อโรคมีอยู่รอบตัวเรา ดังนั้นเราจึงหันมาเริ่มใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจังโดยเริ่มที่เทศกาลตรุษจีนนี้ก็น่าจะดีนะคะ

 

 

 

เรื่องโดย :ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th

Shares:
QR Code :
QR Code