‘อาวุโสทยาลัย’ แม่สูน บ่มเพาะผู้สูงวัยเพื่อชุมชน

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ


ภาพประกอบจากแฟนเพจอวุโสทยาลัย องค์การบริหารส่วนตำบลแม่สูน


'อาวุโสทยาลัย' แม่สูน บ่มเพาะผู้สูงวัยเพื่อชุมชน thaihealth


คาดกันว่าใน ปี 2567 ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้สูงอายุจะมีมากถึงร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งหมดและหากเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 30 ก็จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นใน ปี 2578


ทีมผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้ตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดีเพราะจากข้อมูลประชากรในตำบลแม่สูนพบว่า มีผู้สูงอายุและผู้เตรียมพร้อมเข้าสู่วัยสูงอายุถึง 4,712 คน หรือคิดเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งตำบล ด้วยเหตุนี้ ทางอบต.แม่สูน ได้ร่วมกับชุมชน ได้เกิดแนวคิดรวมกลุ่มผู้สูงอายุให้มาทำกิจกรรมร่วมกันโดยได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้และทุนส่วนหนึ่งจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินโครงการภายใต้ชื่อ "โรงเรียนอาวุโสทยาลัย" ดร.สมพงศ์ ค่ายคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนอาวุโสทยาลัย บอกถึงแนวคิดการจัดตั้งอาวุโสทยาลัยว่า โรงเรียนผู้สูงอายุส่วนใหญ่ ไม่ได้กำหนดหลักสูตร กำหนดเวลาเรียน ไม่มีตารางการเรียนการสอนที่ชัดเจน วัตถุประสงค์ส่วนใหญ่เพื่อพบปะสังสรรค์ มีกิจกรรมเล็กๆ น้อย ซึ่งรูปแบบนี้ไม่ใช่โรงเรียน ทาง อบต.แม่สูนจึงคิดว่า ถ้าเราจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุจะต้องมีหลักสูตร มีกำหนดเวลาเรียน เมื่อเข้ามาแล้วจะได้รับการพัฒนาอย่างไร ไปถึงไหนและจะจบอย่างไร จึงเกิดเป็นอาวุโสทยาลัยขึ้นมา


"ผู้สูงอายุที่เข้ามาเรียนจะต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่เข้มข้น แต่ต้องครบกระบวนการเป็นเวลา 2 ปี 4 ภาคเรียนโดยต้องเข้ารับการพัฒนาสัปดาห์ละ 1 วันภาคเรียนละ 20 วัน ตลอดหลักสูตร 80 วันและจะต้องมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 จึงจะได้รับวุฒิบัตร" ดร.สมพงศ์ กล่าว


'อาวุโสทยาลัย' แม่สูน บ่มเพาะผู้สูงวัยเพื่อชุมชน thaihealth


โดยหลักสูตรที่ผู้สูงอายุจะต้องเข้าร่วมมี 5 ด้าน คือ สุขภาพ อารมณ์  จิตใจสังคม และการฝึกอาชีพตามความถนัด เมื่อจบแล้วมีหลักสูตรเรียนต่อด้วย เหมือนต่อปริญญาโท คือให้ผู้เรียนลงพื้นที่พัฒนาชุมชน ใน 5 เรื่อง คือ 1.ด้านดูแลความสงบเรียบร้อย 2.การดูแลผู้สูงอายุ 3.ด้านสิ่งแวดล้อม 4.การศึกษาและวัฒนธรรม และ 5.ด้านเด็กและเยาวชน ปัจจุบันโรงเรียนอาวุโสทยาลัย ต.แม่สูน มีผู้เข้าร่วมการพัฒนาจำนวน 260 คน คาดว่าทุกคนจะได้รับการพัฒนาจนถึงระดับขั้นสูงสุด จากนั้นทางอบต.แม่สูน จะผลักดันให้ผู้สูงอายุแต่ละคนไปจัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุในชุมชนของตัวเองเพราะเป้าหมายที่แท้จริงของคนแม่สูน คืออยากให้มีโรงเรียนผู้สูงอายุที่ยั่งยืนในหมู่บ้าน


ด้าน นายสารัช ทาราช ผู้จัดการโรงเรียนอาวุโสทยาลัย บอกว่า ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมกับอาวุโสทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือด้านต่างๆ หรือการเข้ามาเป็นวิทยากรให้กับผู้สูงอายุในกิจกรรมต่างๆ ขณะที่ลูกหลานก็รู้สึกดีใจที่มีสถานที่ให้ผู้สูงอายุได้มาทำกิจกรรม ส่วนผู้สูงอายุเมื่อเข้ามาแล้วเห็นได้ชัดว่ามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะเขามีความสุข เหมือนเขาได้มาเจอเพื่อนสมัยหนุ่มสาวอีกครั้งหนึ่ง ท้ายสุดแล้วผู้สูงอายุที่ผ่านกระบวนการพัฒนาจะต้องพัฒนาตนเองไม่เป็นภาระสังคม นำเอาศักยภาพไปช่วยเหลือสังคม และต้องขยายผลไปยังโรงเรียนของตัวเอง


การเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุได้แสดงศักยภาพ ได้แสดงความนึกคิดออกมา ให้เขาได้พัฒนาและใช้ความสามารถที่มีอยู่ช่วยเหลือตนเองและสังคม นั่นคือการดูแลผู้สูงอายุให้ได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ดังเช่นอาวุโสทยาลัย ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่กำลังดำเนินอยู่

Shares:
QR Code :
QR Code