“อาร์ม พิพัฒน์” ดีเจเสียงใสจิตใจสตรอง
เรื่องโดย เทียนทิพย์ เดียวกี่ Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจาก สสส.
“สวัสดีครับ คุณผู้ฟัง วันนี้พบกับอาร์ม คูลเจอาร์มเช่นเคยครับ” ประโยคคุ้นหูที่คนฟังเป็นต้องเคลิ้มและหลงรักหนุ่มเสียงอบอุ่นคนนี้ “อาร์ม พิพัฒน์ วิทยาปัญญานนท์” หรือที่หลายคนรู้จักในนาม คูลเจอาร์ม ดีเจ แห่งคลื่น Cool Fahrenheit 93 ซึ่งนอกจากการเป็นดีเจแล้ว เขายังเป็นนักแสดงและพิธีกรอีกด้วย
การจัดรายการที่มอบความบันเทิงแบบนี้ ในส่วนของการจัดการอารมณ์ย่อมเป็นสิ่งสำคัญ อาร์มเล่าว่า การทำงานบางทีจัดการกับอารมณ์ยาก เพราะบางครั้งเปิดรายการแบบยิ้มๆ แต่ผู้ฟังไม่รู้ว่าที่จริงเพิ่งอกหักมาบ้าง ทะเลาะกับแฟนมาบ้าง หรือที่บ้านเพิ่งมีปัญหา เป็นต้น ซึ่งเราต้องแยกให้ออกว่าแก้วคนละใบ หมวกคนละใบ อารมณ์ที่ทำงานเราต้องทำงาน เราต้องเป็นเราในแบบบันเทิง เป็นเราที่เปิดไมค์พูดออกไป เหมือนกับเราหัดเก็บอารมณ์ไว้เรื่อยๆ แล้วนำมาใช้ให้มันถูกโอกาสแค่นั้นเอง
“คนที่โตขึ้นจะไม่กล้าปีนต้นไม้เพราะเขารู้แล้วว่าถ้าตกลงมาจะเจ็บ เหมือนกันกับชีวิตในแต่ละวัน ถ้าเรารู้ว่าอารมณ์เราไปทำอะไรที่มันขุ่นหมอง หรือเอาอารมณ์บางคนมาแปะเราแล้วเราเปื้อนไปด้วย และเราไปโกรธตาม หงุดหงิดตาม สิ่งที่ไม่ดีจะตกที่เรา เพราะฉะนั้นถ้าเราป้องกันไว้ก่อน เช่น เราวิ่งแบบนี้เราจะลื่นถ้าเราเหยียบน้ำ เหมือนกันถ้าเราจะไปเจออารมณ์ใครบางคนที่ทำงานไม่ดี หรือทำงานได้ไม่เหมาะ เราก็แค่เลี่ยงตรงนั้นไป หรือเรารู้อยู่แล้วว่าต้องเหยียบน้ำตรงนี้ เราก็ต้องเหยียบไปแบบระมัดระวัง” อาร์มกล่าว
แน่นอนว่า จิตที่ดีย่อมมาจากกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้หนุ่มเสียงใสคนนี้เป็นคนคิดบวก และมีสุขภาพจิตที่ดี นั่นคือการออกกำลังกายนั่นเอง “ ที่ผ่านมามีปัญหาสุขภาพมาก เป็นคนพักผ่อนน้อย และออกกำลังกายแบบฟิตเนส ซึ่งไม่ได้ยืดเหยียด และออกกำลังกายแบบหักโหมในบางจุด จึงทำให้มีอาการปวดหลัง” นี่คือจุดเริ่มต้นของการหันกลับมาทบทวนตนเองของอาร์มในการออกกำลังกาย ทำให้เขาปรับเปลี่ยนและหาวิธีออกกำลังกายแบบใหม่ โดยที่รู้ว่า ท่าต่างๆ ทำถูกไหม และสิ่งที่ทำออกมาได้ผลอะไรกับกล้ามเนื้อส่วนไหน ซึ่งกลายเป็นเทรนด์และวิธีออกกำลังกายฉบับของอาร์มไปโดยปริยาย
เขาเล่าต่อว่า ถ้าเราจะไปวิ่ง ก็ไปวิ่งในระดับที่ไม่ได้ทำร้ายเข่าหรือหลัง เพราะมันต้องลงน้ำหนัก วิธีของอาร์ม คือการออกแบบการออกกำลังกาย เราต้องคิดก่อนออกกำลังกาย ซึ่งตอนนี้เทรนด์วิ่งกำลังมา แต่การวิ่งแบบหักโหม จะส่งผลกระทบต่อเราในอนาคตอย่างคาดไม่ถึงนั่นเอง
“ เชิญชวนให้ออกกำลังกายกันเยอะๆ ในขณะเดียวกันก็ออกกำลังกายแบบรักตัวเองด้วย อย่าหักโหมเกินไป อย่าให้ภาพลักษณ์ที่แสดงออกไปหมายถึงตัวเราในแบบผิดๆ บางคนออกกำลังกายแบบมีกล้าม หุ่นดี แต่สุดท้ายแล้วไม่มีความสุข เพราะเรามัวแต่กังวลกับภาพที่ออกไป เท่านั้นเอง “ อาร์มกล่าวทิ้งท้าย
การดูแลกายและใจของตนเอง เป็นปัจจัยสำคัญและเป็นพื้นฐานที่ส่งผลให้ร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมที่จะต่อสู้กับสิ่งต่างๆ ในแต่ละวัน เหมือนกับที่ สสส. ให้ความสำคัญ โดยสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี 4 ด้าน ทั้ง กาย จิต ปัญญา สังคม เพื่อให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี