อันตรายแล็บฯ มหา’ลัยเคมีค้าง 20 ปีสิ้นทางกำจัด

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2554 ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้เปิดตัวโครงการยกระดับความปลอดภัยห้องปฏิบัติการวิจัยไทย มีผู้แทนจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งเข้าร่วม ทั้งนี้แม้จะมีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยหลายประเภทให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการค้นคว้าทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) แต่หน่วยงานหรือองค์กรในประเทศ รวมถึงสถาบันอุดมศึกษาก็ไม่ให้ความสำคัญ ทำให้นักวิจัย นักวิเคราะห์ขาดความระมัดระวังในการใช้สารอันตรายและขาดความตระหนักในการทิ้งของเสียอันตรายจากห้องปฏิบัติการสู่สิ่งแวดล้อม มีโอกาสเสี่ยงได้รับอันตรายทั้งร่างกายและสุขภาพจากสารอันตรายต่างๆ

รศ.ดร.วราพรรณ ด่านอุตรา ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและของเสียอันตราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า ในห้องปฏิบัติการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเคยเกิดระเบิด แต่ก็ไม่มีรายละเอียดการจัดการ และยังดำเนินต่อไป ที่เขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ก็มีปัญหาคนเป็นโรคมะเร็งเพราะสารเคมี บางคณะในมหาวิทยาลัยบางแห่ง อาจมีถังขนาด 200 ลิตรตั้งอยู่ข้างตึกโดยไม่มีใครทราบว่าคืออะไร หากจะนำไปทิ้งก็ไม่ทราบจะทิ้งที่ไหน แต่ปัจจุบันที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีหน่วยงานจัดการกำจัดของเสียกำลังดำเนินการ

รศ.ดร.สุภา หารหนองบัว หัวหน้าภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าวว่า ภาควิชาเคมีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีอายุ 45 ปี ทุกอย่างเสื่อมโทรมตามกาลเวลา ที่คณะมีอาคารเก็บเคมี ที่มีสารเคมีอายุ 20ปีที่ไม่มีฉลาก ไม่ทราบว่าเป็นอะไร ใช้ประโยชน์ก็ไม่ได้ และกำลังจัดการแก้ไข

ในที่ประชุมเดียวกัน นักวิชาการจากคณะวิทยาศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แจ้งว่าทางคณะพยายามดูแล แยกสารเคมีใช้แล้วใส่ขวดเก็บไว้ แต่ก็มีปริมาณเยอะมาก ซึ่งไม่ทราบจะกำจัดอย่างไร ภาควิชาเคมีก็มีเยอะ พยายามติดต่อบริษัทเอกชน ก็ต้องยกเลิกเพราะทราบว่าเป็นการนำไปทิ้ง ที่จะทำให้เกิดปัญหา

ด้าน ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยแก้ปัญหาถังสารเคมีข้างอาคารคณะวิทยาศาสตร์ ปริมาณ 13 ตัน คิดเป็นค่ากำจัด 30 ล้านบาท แต่ทางมหาวิทยาลัยได้หาทางออกโดยใช้องค์ความรู้ด้านเคมี และให้นิสิตช่วยกันนำทดสอบทางวิชาการจำแนกของเสียและค่อยกำจัดทีละน้อย เสียค่าใช้จ่ายจริง 3ล้านบาท

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code