“ออกกำลังกาย” อย่างไรให้เหมาะ
วัยและสมรรถภาพเรื่องแรกที่ต้องคำนึง
การมีรูปร่างท้วมอ้วนไว้พุงนิด ๆ เคยเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเชื่อว่าเป็นการบ่งบอกถึงความมีฐานะกอปรกับมีอันจะกิน จึงทำให้มีรูปร่างอย่างที่เห็นซึ่งหลายคนเคยภูมิใจในหุ่นแบบอาเสี่ยของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าความจริงแล้วเขาหรือเธอผู้นั้นกำลังป่วยด้วยโรคอ้วน อันเนื่องมาจากการบริโภคที่ไม่ถูกหลักและไม่สมกับช่วงวัย
“ภาวะอ้วนลงพุงถือเป็นปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเร่งแก้ไขปัญหา เพราะเป็นสาเหตุของการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2-6 ของงบประมาณด้านสาธารณสุขของประเทศเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาในปี 2544 มีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากภาวะอ้วนถึง 4 ล้านล้านบาท ขณะที่โรคอ้วนของไทย ในปี 2550 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขพบว่า คนไทยกำลังเผชิญกับโรคอ้วนสูงถึง 10.2 ล้านคน หรือร้อยละ 35 ของจำนวนประชากรที่มีอายุ35 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมือง”อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเปิดงาน”มหกรรมลดพุงคนกรุงเทพ ครั้งที่ 1 (1 st Bangkok Anti-Fat Festival)
นั่นจึงทำให้เป็นที่มาของนโยบายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และการดูแลสุขภาพเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรงจำเป็นต้องมีการป้องกันปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งการลดการสูบบุหรี่ การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการควบคุมน้ำหนักด้วย
“มหกรรมลดพุงคนกรุงเทพครั้งที่ 1” จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “3 อ.” ที่หมายถึง “อาหาร ออกกำลังกาย และอารมณ์” ที่มีผลต่อร่างกาย โดยเครือข่ายคนไทยไร้พุง ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมีขบวนวิ่งลดพุงเป็นกิจกรรมหลัก พร้อมทั้งมีการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย โดยเฉพาะข้อกระดูกต่าง ๆเพื่อหาวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับร่างกายมากที่สุด เพราะหากออกกำลังกายผิดวิธี ย่อมอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายตามมา
ผศ.รุ่งชัย ชวนไชยะกูล รองเลขาธิการเครือข่ายคนไทยไร้พุง และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยมหิดลแนะนำว่า การวิ่งอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการต่อกรกับโรคอ้วน โดยเฉพาะผู้สูงอายุเพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคไขข้อกระดูกเสื่อม ที่มีสาเหตุจากการเคลื่อนไหวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายซ้ำ ๆ เนื่องมาจากการใช้เครื่องมือที่ออกแบบไม่เหมาะสม ซึ่งทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของข้อมือและนิ้วมือไม่ถูกวิธีลักษณะท่าทางการทำงานที่ไม่ถูกต้อง
“ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอาการเริ่มแรกคือชาที่นิ้วมือ และอาการจะรุนแรงขึ้นคือ ปวดมือและข้อมือมากจนกระทั่งไม่สามารถทำงานได้ปกติ ผู้ป่วยโรคนี้คือ จะสั่นมือบ่อย ๆ ซึ่งแสดงการกดตัวของประสาท ที่สำคัญโรคอ้วนเป็นโรคที่เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อโรคนี้อีกเท่าตัว บางรายอาจจะยืนหรือเดินไม่ได้เลย ปัจจุบันโรคอ้วนเป็นโรคที่พบบ่อยมากในผู้สูงอายุ ยิ่งเครียดมากก็ยิ่งกินมาก ประกอบกับผู้สูงอายุมีระบบย่อยอาหารที่ไม่เต็มประสิทธิภาพอยู่แล้ว จึงทำให้เกิดโรคอ้วนได้ง่าย”
นอกจากการตรวจสุขภาพร่างกายในส่วนต่าง ๆก่อนออกกำลังกายเพื่อหากิจกรรมออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคนแล้วการกินครบทั้ง 5 หมู่ก็เป็นอีกอย่างที่สำคัญ รวมทั้งการนำดนตรีมาใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ เรียกกันว่า “ดนตรีบำบัด” หรือ “มิวสิก เธอราพี (Music therapy) ก็ช่วยสร้างความสมดุลให้ร่างกายด้วย
ด้าน นพ.ฑนัท ครุทกูล รองเลขาธิการเครือข่ายคนไทยไร้พุง และผู้เชี่ยวชาญด้านโรคอ้วน รพ.รามาธิบดี กล่าวว่า การวัดความดันก็เป็นส่วนหนึ่งของการออกกำลังกายที่ดี เพราะจะได้หาวิธีการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับอายุและสมรรถภาพ คนทั่วไปความดันปกติอยู่ที่ 120-180 ขณะที่หัวใจจะเต้นอยู่ที่60-80 ครั้ง ซึ่งความดันจะเพิ่มขึ้นเมื่อหัวใจบีบตัว และลดลงเมื่อหัวใจคลายตัว แต่ความดันโลหิตของคนเราจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความเครียด การออกกำลังกายและการนอนหลับ แต่ไม่ควรเกิน 140/90 ส่วนผู้สูงอายุก็จะลดความดันลงมา
“ปกติคนสูงอายุจะไม่ค่อยออกกำลังกาย ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น เครียดง่าย พอเครียดก็ต้องหาอะไรคลายเครียดด้วยการกิน พอกินแล้วไม่ออกกำลังกายเลยทำให้อ้วนและลงพุง แต่แค่เดิน-วิ่งอยู่กับที่ผู้สูงอายุก็สามารถออกกำลังกายได้แล้ว”
ด.ญ.น้ำผึ้ง วัยเพียง 10 ขวบ ผู้ชนะเลิศประเภทหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี บอกว่า เริ่มวิ่งมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ วันละ 1 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์ จึงทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีพัฒนาการเจริญเติบโตที่ดีอย่างที่เห็น ขณะที่ผู้ชนะฝ่ายชายในประเภทเดียวกันอย่าง วิทวัส ไพศาล วิ่งเพื่อออกกำลังกายทุกวันแต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของผู้ฝึกสอนที่คอยดูแล
ส่วนในรุ่นอายุ 16-30 ปีผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิง สุวารี ดีนัก บอกว่า นอกจากการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย และเมื่ออายุเพิ่มขึ้นการออกกำลังกายก็จะต้องให้เหมาะสมกับพลังงานที่รับ
ประทานเข้าไปด้วย ขณะที่ บรรพต ฤทธิ์สว่างผู้ชนะฝ่ายชาย บอกว่า การใช้ชีวิตให้ห่างไกลจากยาเสพติดทุกชนิดก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ
สำหรับรุ่นอายุ 31-50 ปี นั้นพิศมัย ดวงจันทร์ วัย 42 ปี บอกว่า ต้องทานอาหารครบ 5 หมู่แต่สำหรับข้าวเมื่ออายุมากขึ้นไม่เกิน 2 ทัพพีก็พอแล้วขณะที่ พันจ่าอากาศสราวุธ งามศรีบอกว่า ปกติจะวิ่งเกือบทุกวันช่วงเช้ามืดก่อนไปทำงาน แต่หากวันไหนติดงานจริง ๆ ก็จะหาเวลาว่างเข้าฟิตเนสแทน
แม้ว่าการวิ่งจะถูกมองว่าไม่เหมาะสำหรับคนที่มีอายุมาก แต่หากมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนี่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะผู้ชนะอย่าง มินามิ ประกายเพชร ที่ออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมงทุกวัน วิ่งบ้างเต้นแอโรบิกบ้าง จึงทำให้มีสุขภาพดีอย่างที่เห็น ขณะที่ประสงค์ เผ่าลือ ผู้ชนะในรุ่น 50 ปีขึ้นไปฝ่ายชาย ร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแม้อายุจะมากขึ้นก็แสดงให้เห็นถึงประโยชน์จากการออกกำลังกายที่ชัดเจนยิ่งกว่า
ปัจจุบันโรคอ้วนไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ยังคุกคามไปถึงเด็ก วัยุร่น และวัยทำงานด้วย การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปถึงคนไทยทุกคน ทั้งที่กำลังอยู่ในภาวะอ้วนเกินพิกัด คนที่กำลังอยู่ในภาวะเสี่ยง รวมไปถึงคนที่ยังไม่เป็นแต่ไม่ต้องการจะให้โรคอ้วนเข้ามาคุกคามตัวเองด้วย.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Update:15-02-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่