‘ออกกำลังกาย’ ตัวช่วยหนึ่งของผู้อยากเลิกบุหรี่
“การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยปีละ 50,710 คน และเป็นสาเหตุของภาระโรคอันดับที่สองของคนไทย โดยทำให้คนเสียเวลาแห่งชีวิตจากการตายก่อนเวลา 628,061 ปี และสูญเสียสุขภาวะจากการเจ็บป่วยหนัก 127,184 ปี ในแต่ละปี ทำให้เกิดการสูญเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาผู้ป่วย 52,200 ล้านบาท” นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวไว้ในงานแถลงข่าว “บุหรี่: ภาษียิ่งเพิ่ม คนตายยิ่งลด” เมื่อไม่นานมานี้
จากสถิติดังกล่าว น่าจะเป็นข้อมูลที่เราทุกคนควรตระหนักให้มากขึ้นว่า ควรแล้วหรือที่จะให้พิษภัยจากการสูบบุหรี่ทำร้ายชีวิต ทั้งๆ ที่การ “เลิกสูบบุหรี่” เป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ และให้คุณประโยชน์กับเรามากกว่า
เช่นเดียวกับการออกกำลังกาย หนึ่งกระบวนการสำคัญที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้ทุกชีวิตมีสุขภาพดี แต่ยังช่วยให้สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ด้วย ทั้งนี้ งานวิจัยของ ดร.เอเดรียน เทย์เลอร์ ศาสตราจารย์ด้านการออกกำลังกายและสุขภาพจิต มหาวิทยาลัยเอ็กเซ็ตเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้วิเคราะห์รายงาน 12 ฉบับว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างการออกกำลังกายกับการเลิกสูบบุหรี่ พบว่า การออกกำลังกายเพียง 5 นาที ทำให้ผู้ที่ติดบุหรี่อยู่สามารถเอาชนะความอยากบุหรี่ที่เกิดขึ้นได้
ด้าน ผศ.ดร. เปรมทิพย์ ทวีรติธรรม รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลเสริมว่า สำหรับคนที่อยากเลิกบุหรี่ การหันมาออกกำลังกายก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ควรทำควบคู่กันไป เนื่องจากการออกกำลังกายประเภท ‘แอโรบิก’ ที่มีความต่อเนื่อง เช่น เดิน วิ่งเหยาะๆ วิ่งทางไกล ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน กระโดดเชือก หรือเต้นแอโรบิก ฯลฯ ทั้งหมดนี้ มีผลวิจัยว่า สามารถช่วยให้คนสูบบุหรี่ สูบน้อยลงจนถึงขั้นเลิกบุหรี่ได้จริง
“สิ่งสำคัญคือสมรรถภาพปอดของผู้สูบบุหรี่แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ก่อนจะเลือกประเภทการออกกำลังกาย จึงควรจะต้องได้รับการตรวจสุขภาพของปอดเสียก่อน สำหรับผู้ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้แล้ว ควรฝึกการหายให้ถูกต้องเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับปอด
โดยการฝึกหายใจที่ถูกต้องคือ ‘ฝึกหายใจโดยใช้กล้ามเนื้อกะบังลม’ โดยหายใจเข้าท่องป่อง หายใจออกท้องแฟบ เนื่องจากคนที่สูบบุหรี่ กับคนที่เป็นปอดอุดกั้นเรื้อรัง กล้ามเนื้อกะบังลมจะอ่อนแรง การใช้กล้ามเนื้อกะบังลมก็จะไม่ดี การฝึกหายใจจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อกะบังลมให้ทำงานได้ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น” ผศ.ดร. เปรมทิพย์ กล่าว
นอกจากนี้ ผศ.ดร. เปรมทิพย์ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สาเหตุหนึ่งที่คนสูบบุหรี่ ยังไม่สามารถเลิกบุหรี่ได้ นั่นคือความกลัวว่า การเลิกสูบแล้วจะทำให้ ‘อ้วน’ เนื่องจากในควันบุหรี่มีสารที่ชื่อ นิโคติน (Nicotine) ซึ่งเมื่อเข้าสู่สมองจะกระตุ้นให้สมองหลั่ง โดพามีน (Dopamine) หรือ ฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้ร่างกายลดความเครียด มีความสุขใจ สบายใจขึ้น มีความตื่นตัวมากขึ้น แต่มีผลทำให้ความอยากอาหารลดลง ดังนั้นเมื่อเลิกสูบบุหรี่ ร่างกายจะกระตุ้นให้มีความอยากอาหาร จึงมีแนวโน้มที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นด้วย การออกกำลังกายจึงเป็นวิธีการที่ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้สูบเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ แต่ยังเป็นวิธีการสำคัญที่ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับความอ้วนหลังจากเลิกสูบบุหรี่ด้วย
เมื่อประโยชน์ของการออกกำลังกายมีมากมายถึงเพียงนี้ วันนี้คุณออกกำลังกายแล้วหรือยัง…
เรื่องโดย น.ส.อาภาวรรณ โสภณธรรมรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต