อย. ส่งเสริม “ร้านยาคุณภาพ” รองรับ AEC
อย.ส่งเสริมร้านขายยาให้พัฒนาเป็น “ร้านยาคุณภาพ” รองรับ aec เตรียมออกกฎกระทรวงกำหนดให้ร้านยาเปิดใหม่ต้องมีคุณภาพมาตรฐานตามหลักวิธีปฏิบัติที่ดีในร้านยา กำหนดให้ร้านยาเปิดใหม่ต้องมีคุณภาพมาตรฐานตามหลักวิธีปฏิบัติที่ดีในร้านยา
อย. เผยขณะนี้กำลังจะมีการออกกฎกระทรวงกำหนดให้ร้านยาต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพ ในการให้บริการภายใต้หลักวิธีปฏิบัติที่ดีในร้านยา (good pharmacy practice: gpp) โดยบังคับร้านยา เปิดใหม่ทั้งหมดจะต้องมีคุณภาพมาตรฐานตาม gpp เพื่อยกระดับมาตรฐานของร้านยาให้พร้อมต่อการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่นำระบบคุณภาพเป็นเงื่อนไขในการแข่งขัน
นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) ชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทย และสมาคมร้านขายยา ร่วมมือกันภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพร้านยา โดยในภาพรวมของการพัฒนาร้านยาทั้งหมดของประเทศ ในเร็ววันนี้กำลังจะมีการออกกฎกระทรวงภายใต้พระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ซึ่งจะมีสาระสำคัญในการกำหนดให้ร้านยาต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพในการให้บริการภายใต้ หลักวิธีปฏิบัติที่ดีในร้านยา (good pharmacy practice: gpp) รวมถึงบังคับร้านยาเปิดใหม่ทั้งหมดจะต้องมีคุณภาพมาตรฐานตาม gpp เพื่อยกระดับมาตรฐานของร้านยาให้พร้อมต่อการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งจะมีการนำระบบคุณภาพมาเป็นเงื่อนไขใหม่ในการแข่งขัน
นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการนำมาตรฐานร้านยาคุณภาพ มาเป็นเงื่อนไขในการไม่ต่อใบอนุญาตร้านยาที่ไม่มีระบบคุณภาพด้วย ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าว จะบังคับกับร้านยาใหม่ทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 180 วัน โดยร้านยาที่เปิดก่อนกฎกระทรวงนี้มีผลใช้บังคับจะให้เวลาในการพัฒนาร้านยาภายใน 8 ปี
รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า ช่วงระหว่างกฎกระทรวงดังกล่าวยังไม่มีผลใช้บังคับ อย. ได้ร่วมมือกับสภาเภสัชกรรมในการให้เภสัชกรในร้านยาที่ขอเปิดใหม่เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร เตรียมความพร้อมในการเป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านยา เพื่อให้เภสัชกรมีความเข้าใจในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลักวิธีปฏิบัติที่ดีทางเภสัชกรรมชุมชน อันจะส่งผลให้เภสัชกรในร้านยาปฏิบัติตนได้ถูกต้องสอดคล้องตามกฎหมาย มีจรรยาบรรณที่ดี และมีความเข้าใจในระบบคุณภาพในร้านยา สามารถเป็นเภสัชกร ที่ดีในระบบยา
รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันมีร้านยาคุณภาพจำนวน 648 ร้าน ครอบคลุม ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และขณะนี้ได้มีการนำร้านยาคุณภาพส่วนหนึ่งเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อาทิ พื้นที่ใน กทม. ในโครงการร้านยาเยี่ยมบ้าน ร่วมกับศูนย์บริการสาธารณสุข, โครงการคัดกรองและส่งต่อผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน กับหน่วยบริการของ สปสช., โครงการให้คำปรึกษาเพื่อเลิกบุหรี่โดยเบิกจ่ายค่าบริการให้คำปรึกษา จาก สปสช. เป็นต้น ดังนั้น จีงเป็นภาพลักษณ์ใหม่ของร้านยา ในการให้บริการที่ไม่เพียงแต่งานบริการทางเภสัชกรรมที่ดี ยังสามารถเชื่อมโยงกับระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอีกด้วย
“ขอให้ประชาชนเลือกรับบริการจากร้านยาที่มีเภสัชกรให้บริการและมีระบบจัดการคุณภาพ ภายในร้านจะช่วยให้ได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยา หลีกเลี่ยงการซื้อยาจากแหล่งที่เสี่ยงต่อการเกิดความไม่ปลอดภัยด้านยา เช่น ร้านขายยาที่ไม่มีเภสัชกรให้บริการ, ร้านขายยาที่ไม่มีระบบการจัดเก็บยาที่มีคุณภาพ ไม่มีระบบการควบคุมยาหมดอายุที่ดี” รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในที่สุด
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)