อย่าใหั SEX เป็นข้ออ้างพิสูจน์รัก

          โพลชี้วัยรุ่นชาย ฉวยโอกาสวาเลนไทน์ขอมีเซ็กส์พิสูจน์รักใช้วลีฮิต “ไม่รักกันจริง” หลอกล่อให้แฟนสาวยินยอม ขณะที่หน้าที่ป้องกันตั้งท้อง กว่า 33% เป็นหน้าที่ของผู้หญิง ด้าน เครือข่ายเยาวชนฯวอน สังคมอย่าตีตราเด็กว่าต้องมีเซ็กส์วาเลนไทน์ ด้วยการภาพแค่ด้านเดียว ย้ำเด็กส่วนใหญ่ก็มีกิจกรรมอื่น ๆ ที่สร้างสรรค์ พร้อมแนะปฏิรูปครอบครัว-ระบบการศึกษา เตือนสติรักแบบถูกต้อง

/data/content/19597/cms/dmnqvwxy1589.jpg

          เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ร่วมกับมูลนิธิเยาวชนเพื่อการพัฒนา มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล สำนักงานเครือข่ายองค์การงดเหล้า ศูนย์ฝึกและ อบรม เด็กเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก และสสส. จัดกิจกรรม รับวันวาเลนไทน์ ภายใต้แคมเปญ “อย่าใหั SEX เป็นข้ออ้างพิสูจน์รัก” โดยนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กล่าวว่า จากผลสำรวจ “เรื่องเพศสัมพันธ์ ของวันรุ่น” ซึ่งเป็นการสำรวจเฉพาะ เพศชาย ระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาใน กทม. จำนวน 1,300 คน พบว่า ร้อยละ44 มองว่าการมีเพศสัมพันธ์ เป็นเรื่องปกติของการเป็นแฟนกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ กว่าร้อยละ 31 มองว่าวันวาเลนไทน์เป็นโอกาสดีที่จะแสดงความรักด้วยการมีเพศสัมพันธ์ ด้วยคำพูดยอดฮิต “ไม่รักกันจริง” ซึ่งสถานการที่ที่เอื้อต่อการมีเพศสัมพันธ์มากสุดคือการเที่ยว สองต่อสอง เที่ยวกลางคือและการดื่มของมึนเมา นอกจากนี้ กว่าร้อยละ 33 ยังมองว่าการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นหน้าที่ของฝ่ายหญิง ขณะที่ร้อยละ 34.07 ระบุว่าครอบครัวไม่มีการสอนหรือสร้างความเข้าใจเรื่องเพศ

/data/content/19597/cms/defhjklmt257.jpg

      ด้าน นางสุมณฑา ปลื้มสูงเนิน ผู้จัดการโครงการร่วมสุขร่วมสร้างกระบวนการสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศในชุมชน กล่าวว่า วันวาเลนไทน์เป็นเรื่องที่สังคมและผู้ใหญ่ตื่นกลัวและตีตราเด็กมากเกินไป ทุก ๆ ปีมีการนำเสนอข่าวด้านเดียว โดยเฉพาะภาพที่เด็กต้องมีเพศสัมพันธ์ ตำรวจบุกจับตามโรงแรมม่านรูด ตนมองว่าจริง ๆ แล้วมีเยาวชนจำนวนมากไม่ได้คิดเรื่องแบบนี้ กลับกลายเป็นแทนที่เด็กจะใฝ่ดีอาจจะทำอะไรที่เป็นการประชดตัวเองส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาเช่น ท้องไม่พร้อม ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มที่สูงขึ้นและมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นสังคมที่อ่อนแอ ระบบครอบครัวมีปัญหา พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ลูกผลักลูกไว้กับโรงเรียนที่ระบบการศึกษายังไม่พร้อม ไม่รับรองทักษะ และเก็บเรื่องเพศความลับไม่มีการสอน พอเหตุการณ์เกิดขึ้นเด็กไม่รู้เท่าทันอารมณ์ และปฏิเสธไม่เป็น

          “ควรมีการจัดระบบปฎิรูปในครอบครัว สร้างความคิดที่ถูกต้องตั้งแต่เด็กเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันรับมือกับปัญหาสังคมที่เป็นอยู่ ผู้ปกครองควรเป็นที่พึ่งของลูก ไม่ดุด่า ขณะที่ระบบการศึกษาไม่ควรเป็นแบบรักกะปิดรักกะเปิด เพราะส่งที่เด็กต้องการคือ การสอนเรื่องเพศที่เหมาะสมกับวัย เรียนรู้อย่างมีความสุขไม่ถูกล้อเลียน ผู้สอนมีความรู้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ควรมีพื้นที่ให้กับเด็กที่เคยพลาด ส่วนวัยรุ่นก็ควรแสดความรักที่สวยงาม เน้นความปลอดภัยไม่ทำร้ายกันด้วยความรักและกล้าที่จะปฏิเสธ” นางสุมณฑา กล่าว

          ขณะที่ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี กล่าวถึงประสบการณ์ผิดพลาดของตน ว่า เมื่อช่วงที่ตนอายุ 17 ปีและแฟนเกิดตั้งครรภ์ แต่ด้วยความเป็นวัยรุ่นและมีลูกซึ่งจำเป็นต้องใช้เงิน จึงเลือกที่จะค้ายาเสพติดเพื่อนำเงินมาเลี้ยงลูก แต่สุดท้ายถูกจับต้องโดนดำเนินคดีนานกว่า 3 ปี

          “ผู้รู้สึกผิดมาถึงทุกวันนี้ มันทรมานเจอมรสุมใหญ่ อนาคตที่ฝันไว้ก็หายไป ทำให้พ่อแม่เสียใจ กลับมาคิดดูแล้วการที่จะเป็นพ่อคนได้ต้องมีความพร้อม รอบคอบ ไม่ใช่แค่คึกคะนอง การมีเพศสัมพันธ์ต้องมีในแบบถูกต้อง คิดถึงอนาคต อย่าลดคุณค่าตัวเอง เพราะผิดพลาดแล้วเรียกกลับคืนมาไม่ได้ อยากเตือนสติวัยรุ่นในเรื่องนี้ด้วย” นายเอ กล่าว

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการแสดงละครจำลองสถานการณ์ จำลองสถานการณ์“WARNING” สัญญาณเสี่ยงสู่เซ็กส์ แจกสติ๊กเกอร์และลูกโป้งสัญลักษณ์ และการเดินรณรงค์ การมีเซ็กซ์อย่างปลอดภัยแก่ประชาชนโดยรอบด้วย

 

 

ที่มา : เว็บไซต์ASTVผู้จัดการออนไลน์

Shares:
QR Code :
QR Code