อปท.เมืองตักสิลาผุดงานลอยกระทง-มหกรรมอาหารปลอดเหล้า
6-10 พฤศจิกายน 2554 นี้ เทศบาลเมืองมหาสารคามได้ร่วมกับ สสส.ได้จัดงานประเพณีลอยกระทง คืนสิบสองเพ็ญ เล่นโคมไฟใต้ประทีป และงานมหกรรมอาหารท้องถิ่น เพื่อช่วยเศรษฐกิจในท้องถิ่น และเพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์ประเพณีให้อนุชนรุ่นหลังได้สัมผัสวัฒนธรรมอันดีงาม
นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า เนื่องในวันลอยกระทง ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ในปฏิทินจันทรคติล้านนา ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ และขอขมาต่อพระแม่คงคา
สำหรับประเทศไทยประเพณีลอย กระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำต่างๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป โดยในวันลอยกระทง ผู้คนจะทำกระทงจากวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ตกแต่งเป็นรูปคล้ายดอกบัวบาน ปักธูปเทียน และนิยมตัดเล็บ เส้นผม หรือใส่เหรียญกษาปณ์ลงไปในกระทง แล้วนำไปลอยในสายน้ำ เชื่อว่าเป็นการลอยเคราะห์ไป
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าการลอยกระทง เป็นการบูชาและขอขมาพระแม่คงคา ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 10 พฤศจิกายน 2554 เทศบาลเมือง ได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาประชาชนทั้ง 30 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม หอการค้า และหน่วยงาน
นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม กล่าวอีกว่า ทางเทศบาลได้ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดงานประเพณีลอยกระทง คืนสิบสองเพ็ญ เล่นโคมไฟใต้ประทีป และงานมหกรรมอาหารท้องถิ่น เพื่อช่วยเศรษฐกิจในท้องถิ่น และเพื่อเป็นการสืบสานอนุรักษ์ประเพณีให้อนุชนรุ่นหลังได้สัมผัสวัฒนธรรมอันดีงาม ที่กำลังจะสูญหายไปเทศบาลเมือง จึงได้จัดงานประเพณีลอยกระทง คืนสิบ สองเพ็ญ เล่นโคมไฟใต้ประทีป และงานมหกรรมอาหารท้องถิ่น ในวันที่ 6-10 พฤศจิกายน 2554 ณ บริเวณริมคลองสมถวิล
“ในวันลอยกระทงจะมีกิจกรรมประกอบด้วยขบวนแห่จาก 30 ชุมชน การประกวดกระทงขนาดใหญ่ ประกวดโคมไฟลอยฟ้า ประกวดแดนเซอร์เพลงไทยลูกทุ่งอีสานและเลือกชิมอาหารท้องถิ่นหลากหลายชนิด และที่สำคัญภายในงานนี้จะปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์แน่นอน” นายแพทย์กิตติศักดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวณิชย์ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม กล่าวว่า ทาง สภ.เมืองมหาสารคาม ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ดูแลความปลอดภัยทุกจุด โดยเฉพาะเรื่องแอลกอฮอล์จะไม่มีการจับแต่จะมีการควบคุม และตักเตือนวัยรุ่น รวมถึงประชาชนที่ชอบเล่นปะทัดไฟ และดอกไม้ไฟให้อยู่ในขอบเขต ไม่ให้ไปสร้างความรำคาญและความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น เพราะหากเล่นสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ถือว่าเป็นลหุโทษ มีโทษปรับ 1,000 บาท แต่ถ้าหากใครเล่นปะทัดหรือดอกไม้เพลิงโยนใส่คนอื่นได้รับบาดเจ็บ ถือว่ามีความผิดทางอาญาทันที ทางเทศบาลเมืองมหาสารคาม จึงขอเตือนและประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนในชุมชนต่างๆ โปรดใช้ความระมัดระวังในการเล่นไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์