อบรมครู ก. พัฒนาสร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน นำร่องใน กทม.
ตั้งเป้าให้ร่วมถ่ายทอดความรู้ให้กับประชาชนสู่การเป็นอาสาสมัครเพิ่ม เพื่อเตรียมพร้อมในภารกิจการช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินให้รอดมากขึ้น ด้านเจ้าหน้าที่กู้ชีพระบุ อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินอีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากไทยมุง
เมื่อเร็วๆ นี้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้จัดโครงการอบรมครู ก พัฒนาสร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน (อฉช.) ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ชีพจากมูลนิธิในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ หน่วยกู้ชีพร่วมกตัญญู หน่วยกู้ชีพกูบแดง หน่วยกู้ชีพปอเต็กตึ๊ง เพื่อพัฒนาไปเป็นครูฝึกสอนให้กับประชาชนทั่วไป นักเรียนนักศึกษา ในการขยายผลและต่อยอดการเป็นอาสาฉุกเฉินชุมชน ให้มีความรู้ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และสามารถแจ้งเหตุเมื่อพบผู้ป่วยฉุกเฉินได้
เรืออากาศเอกนายแพทย์อัจฉริยะ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักจัดระบบการแพทย์ฉุกเฉินสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า การส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้ความเข้าใจในการช่วยเหลือเบื้องต้นด้านการแพทย์ฉุกเฉินนั้น นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในครัวหรือชุมชนก่อนที่จะมีชุดปฏิบัติการฉุกเฉินเข้าไปถึงและรับตัวผู้ป่วยส่งรักษาในโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งประชาชนจำนวนมากยังไม่มีความรู้ในเรื่องของการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่อาจจะช่วยยื้อชีวิตของผู้ที่ประสบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินได้
ทั้งนี้ สพฉ. มีภาคีเครือข่ายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพหลากหลายมูลนิธิ และเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องการช่วยเหลือเบื้องต้นด้านการแพทย์ฉุกเฉิน เราจึงได้จัดโครงการอบรมครู ก. อาสาฉุกเฉินชุมชน ให้กับเจ้าหน้าที่กู้ชีพเพื่อให้เขาได้นำความรู้เกี่ยวกับการช่วยเหลือชีวิตของประชาชนที่ประสบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินไปถ่ายทอดให้กับประชาชนทั่วไป นักเรียนนักศึกษาและเยาวชน เข้าร่วมเป็นอาสาฉุกเฉินชุมชนและสามารถช่วยชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินหากเขาเหล่านั้นประสบเหตุได้
โดยครู ก. จะเข้าไปให้ความรู้กับประชาชนที่จะเข้าร่วมเป็นอาสาฉุกเฉินชุมชนด้วยกัน 3 เรื่องคือ ขั้นตอนการแจ้งเหตุเพื่อของความช่วยเหลือ 1669 การปฐมพยาบาลเบื้องต้นตรงจุดเกิดเหตุและการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน
ด้าน นายชัยณรงค์ บุ่งหวาย ผู้จัดการหน่วยกู้ชีพกูบแดง ที่เข้าร่วมอบรมครู ก อาสาฉุกเฉินชุมชน (อฉช.) ในครั้งนี้กล่าวว่า การจัดโครงการในการอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะผู้เข้าร่วมอบรมถึงแม้จะมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน แต่จำนวนบุคลากรกู้ชีพของเราก็อาจจะไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือชีวิตของผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินที่มีปริมาณที่มากขึ้นทุกวันได้ การได้จัดระบบความรู้และเรียบเรียงความคิดเพื่อให้พวกเราได้จัดกระบวนการถ่ายทอดให้กับผู้อื่นได้ร่วมเรียนรู้และร่วมเป็นอาสาฉุกเฉินชุมชนนั้นจะยิ่งทำให้การทำงานช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินมีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติหน้าที่กู้ชีพ แต่ละครั้งนั้นสิ่งที่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งคือ บรรดาไทยมุงที่เข้ามามุงดูเหตุการณ์แต่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ และหลายครั้งที่ผู้ประสบเหตุฉุกเฉินต้องเสียชีวิตจากการช่วยเหลือที่ผิดพลาดของผู้เข้าให้การช่วยเหลือที่ไม่มีความรู้ในเรื่องการช่วยชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินในแต่ละประเภท โดยเฉพาะในการเกิดอุบัติเหตุเราจะพบผู้ประสบเหตุเสียชีวิตจากอาการคอหัก หลังหัก จากการดึงตัวของผู้ประสบเหตุออกจากรถโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อยู่เป็นจำนวนมาก จากโครงการนี้จะทำให้มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่จะมีความรู้ในการช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งจะเป็นผลดีกับทุกๆ คน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ชีพที่ได้เข้าร่วมการอบรม ครู ก อาสาฉุกเฉินชุมชน (อฉช.) ในครั้งนี้นั้นได้เข้าร่วมถ่ายทอดวิธีปฎิบัติและการช่วยเหลือชีวิตผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินให้กับนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสมเด็จเจ้าพระยาด้วย โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมอบรมเพื่อเป็นอาสาฉุกเฉินชุมชน (อฉช.) จะได้รับการถ่ายทอดและเรียนรู้ขึ้นตอนของการช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งขั้นตอนของการแจ้งเหตุ 1669 ที่อฉช.จะต้องแจ้งชื่อ นามสกุล เบอร์ติดต่อกลับ และแจ้งอาการของผู้ป่วย และสถานที่เกิดเหตุ และเข้าทำการช่วยเหลือเบื้องต้นตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ ตามอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน และรอจนกว่าชุดปฏิบัติการฉุกเฉินจะเข้ามารับผู้ป่วย
นายธนพงษ์ เทศนิยม นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กล่าวหลังจากที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ เรื่องการกู้ชีพจาก ครู ก อาสาฉุกเฉินชุมชน (อฉช.) ว่า การถ่ายทอดความรู้เรื่องการกู้ชีพให้กับพวกเราในวันนี้นั้นถือเป็นความรู้ที่ดีมาก เพราะถึงแม้ในวิชาเรียนเราจะเรียนกันมาในระดับหนึ่งแล้วแต่เราก็ยังไม่เคยได้ลงปฏิบัติอย่างเป็นเรื่องเป็นราว การที่ สพฉ.และอาสามัครครู ก. มาถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษา ทำให้ได้ลงมือปฏิบัติในสถานการณ์จริง ได้ความรู้และวิธีการที่จะช่วยชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินได้ในหลากหลายกรณี ทั้งการยกผู้บาดเจ็บออกจากอาคารที่เขาประสบเหตุ หรือออกจากรถยนต์ที่เขาประสบเหตุ รวมทั้งการได้เรียนรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำ cpr ด้วย เป็นความรู้ที่ได้มากกว่าในตำราจึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
ที่มา : สำนักข่าวไทยพีบีเอส