หัดปลูกผัก เตรียมรับมือภัยพิบัติ

ที่มา : เว็บไซต์สวนผักคนเมือง


ภาพประกอบจากเว็บไซต์สวนผักคนเมือง


หัดปลูกผัก เตรียมรับมือภัยพิบัติ thaihealth


ในบรรดาผู้เข้าร่วมประกวดดาดฟ้า เขียว กินได้ ต้องยอมรับว่าสวนผักบ้านคุณเพ็ญ วัฒนเกตุ เป็นสวนผักที่มีพื้นที่น้อยที่สุด คืออยู่บนระเบียงบ้านเล็กๆ ที่ยื่นออกมาจากห้องนอน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ระเบียงเล็กๆนี้ เป็นระเบียงแห่งความสุข และพืชผักเติบโตขึ้นมาด้วยความพยายาม และความตั้งใจของผู้ปลูกจริงๆ


เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจ ที่ทำให้คุณเพ็ญสนใจ เริ่มลุกขึ้นมาปลูกผัก แม้ว่าบ้านจะแทบไม่มีพื้นที่เหลืออยู่เลยคุณเพ็ญก็บอกว่า เป็นเพราะว่าลูกชอบติดตามข่าวสารเรื่องโลกร้อนและภัยพิบัติต่างๆ แล้วมาเล่าให้ฟังว่า ในอนาคตอาจเกิดภัยพิบัติขึ้น ถ้าเราจะอยู่รอดได้ ก็ต้องหัดที่จะปลูกผักกินเองไว้ด้วย  ก็เลยเกิดความสนใจที่จะลองทำดู


หัดปลูกผัก เตรียมรับมือภัยพิบัติ thaihealthหัดปลูกผัก เตรียมรับมือภัยพิบัติ thaihealth


คุณเพ็ญ เล่าว่า ครั้งแรกมีโอกาสไปร่วมกิจกรรมของพันพรรณ และได้ชิมส้มตำที่คุณโจน จันไดทำ แล้วติดใจมาก แม้ว่าจะไม่มีเนื้อสัตว์เลย แต่กลับอร่อยมากอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน พอดูส่วนผสม ก็คิดว่าน่าจะมาจากมะเขือเทศที่อยู่ในจาน ซึ่งไม่เคยเห็นมีขายตามตลาดทั่วไป วันนั้นเลยขอเมล็ดพันธุ์มาลองปลูกดู แต่ด้วยความที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนเลย จึงไม่ค่อยได้ผลเท่าที่ควร จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปอบรมปลูกผักกับคุณชูเกียรติ โกแมน เลยรู้วิธีการปรุงดินให้ดี และได้เรียนรู้วิธีทำน้ำปุ๋ยหมักจากเศษผักต่างๆ แล้วก็นำมาทำดู ปรากฏว่าได้ผลดีมาก


ด้วยความที่พื้นที่น้อย คุณเพ็ญก็ได้เรียนรู้ที่จะดัดแปลงการปรุงดินให้เหมาะกับพื้นที่ที่ตัวเองมี โดยที่ไม่ให้มีกลิ่นรบกวน โดยแทนที่จะคลุกดินกับเศษผัก แล้วหมักในปริมาณที่มากๆ ก็ใช้วิธีใส่ดินในกระถางหรือภาชนะ แล้วตามด้วยเศษผัก แล้วกลบดินทับอีกชั้น รอให้มันย่อยแทน ปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวนก็หมดไป


นอกจากนี้คุณเพ็ญยังพยายามสร้างสรรค์สวนผัก จากวัสดุเหลือใช้ต่างๆ ทั้งขวดน้ำ กล่องอาหาร ถุงใส่ปลา กระสอบดิน กระเช้า  แทนที่จะทิ้ง ก็นำมาทำเป็นภาชนะปลูก แถมยังตกแต่ง จัดวาง ระเบียงเล็กๆของห้องนอน เป็นสวนสวยกินได้ด้วย


หัดปลูกผัก เตรียมรับมือภัยพิบัติ thaihealth


“การปลูกผักกินเองแบบไม่ใช้สารเคมี ทำให้รู้สึกภูมิใจมาก ทุกครั้งที่ได้เห็นผักเจริญงอกงามดี ก็ทำให้รู้สึกสุขใจ ตอนรดน้ำผัก ก็ได้สูดอากาศที่สดชื่นไปด้วย ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งก็หาได้ยากในสังคมเมืองที่วุ่นวาย เพียงเท่านี้ก็เปลี่ยนบ้านหลังเดิมของเราให้กลายเป็นโลกใบใหม่ที่สดใสกว่าเดิมได้แล้วค่ะ”คุณเพ็ญบอก


นอกจากความสุขของตัวเองแล้ว ยังได้แบ่งปันความรู้ เชื่อมสัมพันธ์กับคนบ้านใกล้เรือนเคียงด้วย ที่สำคัญ ยังมีวิชาชีวิตติดตัว ยามมีภัยพิบัติ อย่างน้อย ก็สามารถอยู่รอดด้วยการปลูกผักกินเองด้วย

Shares:
QR Code :
QR Code