หวัด09 ‘หญิงท้อง’ เสี่ยงเพิ่ม 4 เท่า

 

 

 หวัด09 ‘หญิงท้อง’ เสี่ยงเพิ่ม 4 เท่า

          ผลวิจัยสหรัฐเตือนหญิงมีครรภ์เสี่ยงป่วยหนักหวัด 2009 มากกว่าคนทั่วไป 4 เท่า เหตุระบบในร่างกายเปลี่ยนแปลงรับลูกตัวน้อย

 

          สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ (ซีดีซี) เปิดเผยผลการศึกษาวานนี้ว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล มากกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า และยังเสี่ยงสูงถึงขั้นเสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 หรือแม้แต่ไข้หวัดใหญ่ปกติ แต่ปัจจุบันก็ยังมีหญิงตั้งครรภ์ในสหรัฐเพียง15% เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี

 

          รายงานระบุว่า ระหว่างกลางเดือน เม.ย. – กลางเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นเดือนแรกของการระบาดก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะประกาศให้เป็นโรคระบาดตามมา มีหญิงตั้งครรภ์ในสหรัฐที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อทั้งหมด 34 คน

 

          ในจำนวนนี้ 11 คน หรือ 1 ใน3 ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีผู้เสียชีวิตในช่วงดังกล่าว 6 คน ทั้งหมดมีอาการปอดอักเสบและปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

 

          เดนิส เจมีสัน ผู้จัดทำผลการศึกษาระบุว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในหญิงมีครรภ์ อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสตรีจะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางเคมี ฮอร์โมน หลอดเลือด และระบบทางเดินหายใจภายในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ ขีดความสามารถของปอดจะลดลงกว่าปกติ เนื่องจากสภาพครรภ์ที่ขยายตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เสี่ยงต่ออาการป่วยที่แรงกว่าคนทั่วไป

 

          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เจมีสันจึงแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามปอดอักเสบและปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

 

          เดนิส เจมีสัน ผู้จัดทำผลการศึกษาระบุว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในหญิงมีครรภ์ อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสตรีจะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางเคมี ฮอร์โมน หลอดเลือด และระบบทางเดินหายใจภายในร่างกายระหว่างตั้งครรภ์ ขีดความสามารถของปอดจะลดลงกว่าปกติ เนื่องจากสภาพครรภ์ที่ขยายตัวใหญ่ขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เสี่ยงต่ออาการป่วยที่แรงกว่าคนทั่วไป

 

          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เจมีสันจึงแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลแทน

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

 

 

Update 31-07-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

 

 

อ่านเนื้อหาทั้งหมดในคอลัมน์คลิกที่นี่

 

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code