หมากัดแมวข่วน ต้องรีบฉีดวัคซีน
อย่าประมาท เพราะอาจตายได้
สธ.ย้ำประชาชน ถูกหมากัด แมวข่วน อย่านิ่งนอนใจ อย่าประมาท เพราะอาจตายได้ เร่งรับวัคซีนป้องกัน ใช้สิทธิ์บัตรทองรักษาได้ทุกแห่ง เพราะถือว่าเป็นเหตุฉุกเฉิน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่ได้รับวัคซีนฉีดในสัตว์เพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อดำเนินการตรวจสอบประสิทธิภาพ ทั้งนี้ขอเตือนว่าอย่าประมาทในเรื่องนี้ แม้จะทราบว่าสุนัขตัวนั้นได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว หากว่าถูกข่วนหรือกัดจากสุนัขกัดหรือแมวควรให้รีบไปฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพราะผู้เชี่ยวชาญได้รายงานว่า แม้สุนัขจะไม่มีอาการพิษสุนัขบ้า แต่โดยปกติสุนัขก็มีโอกาสมีเชื้อไวรัสในเนื้อสมองได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเมื่อถูกกัดแล้ว ดีที่สุดต้องรีบไปรับการฉีดวัคซีน
ส่วนกรณีถ้าถูกสุนัขหรือแมวกัดหรือข่วน สามารถขอรับการฉีดวัคซีนฟรีตามระบบหลักประกันสุขภาพได้อยู่แล้ว และกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องตั้งต้นที่หน่วยบริหารสุขภาพหรือสถานีอนามัยที่ต่างจังหวัด หรือที่ตนมีสิทธิ์ตามบัตรทอง หากถูกกัดในพื้นที่ใดสามารถไปยัง รพ. ของ สธ.ได้ทันที เพราะว่าจะถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉิน
“ขณะนี้ สธ.มีวัคซีนเตรียมไว้ 1 ล้านโดสทั่วประเทศ สามารถฉีดให้บริการได้ไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน ถ้าไม่พอ รพ.ก็สามารถใช้สิทธิ์จัดซื้อ ดังนั้นขอให้ประชาชนไปรับบริการ อย่าได้ประมาท หากว่ามีสถานีอนามัยที่ใดไม่มีบริการดังกล่าวขอให้แจ้งให้ทราบ และย้ำด้วยว่าการฉีดวัคซีนกรณีฉุกเฉินต้องฉีด 5 เข็มเท่านั้น ฉีดเข็มเดียวไม่ได้ ต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อไม่ใช่ใต้ผิวหนัง ระบบการบริการนี้ต้องอยู่ภายใต้คนที่มีความรู้”
นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช) กล่าวถึงกรณี น.ส.พิมลรัตน์ งิ้วกลาง อายุ 26 ปี ต.วังกระทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่าถูกแมวจรจัดกัด แต่ไม่สามารถใช้สิทธิ์บัตรทองในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขจาก รพ.ที่ไม่ใช่หน่วยบริการประจำได้ และยังถูกเรียกเงินค่าวัคซีนจำนวน 398 บาทนั้น ว่า กรณีดังกล่าวน่าจะเป็นความเข้าใจไม่ตรงกันของหน่วยบริการ เนื่องจากการถูกสุนัขหรือแมวกัดนับเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่เป็นเหตุการณ์ตามปกติ สามารถไปรับบริการฉีดวัคซีนที่ รพ.ของรัฐที่ใกล้ที่สุดได้ทันที ไม่ว่าหน่วยบริการประจำที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้จะอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่ให้พบแพทย์โดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update:23-02-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์