หมอเตือนดูแลเด็กปิดเทอมหลังพบอีสานสถิติเด็กจมน้ำตายสูงสุด
หมอออกโรงเตือนผู้ปกครองที่มีเด็กกลุ่มเสี่ยงอายุไม่เกิน 15 ปี จับตาบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กอีสานจมน้ำตายมากที่สุดในประเทศในช่วงปิดเทอม ส่วนแหล่งเกิดเหตุเป็นสระน้ำธรรมชาติใกล้ที่พัก หากห้ามไม่ได้ควรแนะนำใช้เครื่องช่วยชีวิตระหว่างลงเล่นน้ำ ด้านการบริโภคควรเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลมาก เพราะมีผลเสียต่อสุขภาพบุตรหลานในระยะยาว
นายแพทย์มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงภัยของเด็กในช่วงปิดเทอมว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสถิติเด็กอายุต่ำกว่า 15ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำมากเป็นอันดับ 1ของประเทศ เมื่อเทียบกับอัตราการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บทุกสาเหตุ และยังสูงเป็น 2เท่าของอุบัติเหตุที่เกิดจากการจราจร โดยปี 2552มีเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำมากที่สุดใน จ.นครราชสีมา จำนวน 62คน รองลงมาเป็น จ.สุรินทร์ กรุงเทพมหานคร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเสียชีวิตเป็นลำดับที่ 5ถึง 43คน
โดยเด็กชายเสียชีวิตมากกว่าเด็กหญิง 2-5เท่า ช่วงเวลาเกิดเหตุอยู่ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมและมีอากาศร้อน
ส่วนสถิติการเสียชีวิตจากการจมน้ำทั่วประเทศมีประมาณ 1,500คน หรือเฉลี่ยวันละ 4ราย สำหรับสาเหตุของการจมน้ำในกลุ่มเด็กพบว่า ส่วนใหญ่เกิดที่สระน้ำตามธรรมชาติที่อยู่ใกล้บ้านพักคิดเป็นร้อยละ 56.3ช่วงเวลาเกิดเหตุมักเกิดในช่วงบ่ายของวันหยุดคิดเป็นร้อยละ 72.9
จึงขอฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลตักเตือนบุตรหลานอย่าลงเล่นน้ำตามลำพัง โดยไม่มีผู้ใหญ่คอยดูแล หรือแนะนำให้เด็กใช้อุปกรณ์สร้างความปลอดภัยให้ตัวเองระหว่างลงเล่นน้ำ เช่น ใช้ห่วงยาง โฟมลอยน้ำ เสื้อนิรภัยป้องกันการจมน้ำ (เสื้อชูชีพ) ทุกครั้งด้วย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ยังกล่าวถึงการรับประทานอาหารของเด็กในช่วงฤดูร้อน ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ พร้อมหลีกเลี่ยงการกินขนมที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมากๆ เพราะนอกจากเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ยังส่งผลเสียต่อร่างกายเด็กในอนาคต ส่วนอาหารแห้งพร้อมปรุง อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่ควรให้เด็กรับประทานเป็นประจำ
รวมทั้งระหว่างทำกิน ควรแนะนำให้เด็กใส่ผัก หมูสับ หรือลูกชิ้น เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ เพราะเด็กอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต จึงต้องการสารอาหารมากกว่าผู้ใหญ่
“และควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ เพราะน้ำอัดลม 1 ขวดมีน้ำตาลละลายอยู่ในน้ำมากถึง 10-15 ช้อนชา จึงควรเลือกดื่มน้ำผลไม้คั้นสดแทนน้ำอัดลมจะได้ประโยชน์มากกว่า”
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ