`หมอบาทเดียว` จิตอาสาในโลกออนไลน์

ที่มา : หนังสือพิมพ์เนชั่นสุดสัปดาห์ 


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


\'หมอทางบาทเดียว\' จิตอาสาในโลกออนไลน์ thaihealth


'แพทย์เฉพาะทางบาทเดียว' จิตอาสาในโลกออนไลน์


เดี๋ยวนี้หันไปทางไหนก็เห็นคนก้มหน้าอยู่กับสมาร์ทโฟน แทบไม่พูดจากันแล้ว หากเห็น หมอเกมส์-นพ.อดุลย์ชัย แสงเสริฐ ศัลยแพทย์โรงพยาบาลพญาไท 2 และแกรนด์มาสเตอร์สหคลินิก กำลังจิ้มนิ้วอยู่บนโทรศัพท์ อย่าเพิ่งทึกทักว่าอินกับการเล่นไลน์ หรือตามจับโปเกม่อน เพราะความจริงแล้ว นพ.อดุลย์ชัย  กำลังตอบคำถามให้กับคนไข้ตามโครงการ 'หมอเฉพาะทางบาทเดียว' ผ่านเวบไซต์ www.sosspecialist.com และ Facebook ซึ่งได้รับการสนับสนุน งบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนสุขภาพ (สสส.) ซึ่งเจ้าตัว เป็นหัวหน้าโครงการ


ลักษณะการให้บริการของเพจนี้คือ คนไข้ทิ้งคำถามในเวบไซต์หรือเฟซบุ๊ค จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ มาตอบให้ หากบังเอิญออนไลน์ตรงกัน ก็เหมือนตอบคำถามแบบเรียลไทม์


\'หมอทางบาทเดียว\' จิตอาสาในโลกออนไลน์ thaihealth


นพ.อดุลย์ชัย เล่าว่า โครงการแพทย์เฉพาะทางบาทเดียว เป็นแฟนเพจให้ข้อมูล ตอบคำถามสุขภาพ ตอนทำ เริ่มมีเพจของคนไม่ได้เป็นหมอแต่แทนตัวเองว่าหมอ บางเพจก็ปลอมและส่งข้อมูลไม่จริงกระจายออกไป คือตั้งต้นด้วยข่าวสารไม่จริง แอบแฝงธุรกิจ หรือเอาความจริงมานิดหนึ่งแล้วขยายใหญ่ เช่น หน้านี้มะนาวออกผลผลิตน้อย  ก็มีมาข่าวแชร์ในสังคมโซเชียลว่า มะนาวรักษาโรคโน่นนี่นั่น กลายเป็นมะนาวราคาแพงขึ้น


ตัวอย่างที่เคยอ่านพบ เช่น มะนาวรักษาต้อเนื้อในนัยน์ตา จักษุแพทย์บอกว่าลองไปหยอดสิตาบอดนะ  แต่คนทั่วไปยังคิดว่า มันได้หรือเปล่านะ เรามีคำถาม แต่หมอ ตาบอกไม่ได้ เดี๋ยวตาบอด เป็นต้น


ในการตอบคำถาม หมอจึงไม่ฟันธง แต่ใช้คำว่า 'สงสัย คาดว่า' และนำเสนอบทความทางการแพทย์ให้อ่านประกอบ กรณีคนไข้ส่งฟิล์มมา เราไม่ทราบว่าเป็นของคนอื่นหรือเปล่า ก็ให้ถ่ายคู่กับบัตรประชาชนตนเอง จึงอ่านฟิล์มให้ ไม่วิจารณ์คำวินิจฉัยหมอท่านอื่น  แค่แนะนำว่าควรไปปฏิบัติตัวอย่างนี้มากกว่า การตอบปัญหากลุ่มใหญ่มีบางคนใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ หมอก็จะเงียบๆ ไป บางคนไม่พอใจ อยากให้ฟันธงว่าป่วยเป็นอะไร ครั้นหมอ ไม่ตอบ ก็มีอารมณ์บอกว่า "หากตอบได้แค่นี้ ปิดเพจไปเถอะ"


"สิ่งที่เราลงในเฟซบุ๊ค มีผลทางกฎหมายทั้งสิ้น ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายบอกว่า ถ้าเราตอบโดยไม่ประมาท จะปลอดภัย สิ่งที่เราตอบคือคำแนะนำเบื้องต้นว่าคุณควรทำอะไร"


\'หมอทางบาทเดียว\' จิตอาสาในโลกออนไลน์ thaihealth


ตัวอย่างเช่น ห้องหูคอจมูก แม่ถ่ายรูปลิ้นไก่ของลูกซึ่งเป็นสองแฉก ถามว่าเป็นอะไรไหม หมอตอบว่าให้ไปพบหมอ เกี่ยวกับหู เพราะอาจทำให้เป็นน้ำหนวก ซึ่งเคสแบบนี้แม่ ไม่ทราบหรอก


คนมาถามส่วนใหญ่เดือดร้อน ต้องการทราบข้อมูลเบื้องต้น บ้างก็ผ่านการตรวจแล้วแต่ยังมีข้อสงสัย ไม่มีเงินไปพบแพทย์


นับจากเปิดเว็บมาหนึ่งปี มีคำถามรวม 50,519 คำถาม จาก 10,273 คน (นับถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2559) มีแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ 16 ห้องตรวจ 14 สาขาวิชา มีผู้ตอบ  37 ท่าน เกือบทุกสาขาวิชา อื่นๆ ก็มีทันตแพทย์  นักกายภาพบำบัด และนักเทคนิคการแพทย์ ทั้งหมดนี้ฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย ส่วนคุณหมอที่มาตอบคำถามก็เป็นจิตอาสา สละเวลามาตอบ ไม่คิดค่าตัวอีกเช่นกัน


นพ.อดุลย์ชัย ผู้รับผิดชอบโครงการ เล่าให้ฟังถึงที่มาของความคิดว่า เกิดจากการเล่นเฟซบุ๊คกับเพื่อนซึ่งจบจากศิริราชด้วยกัน ในเวบจะคุยกันว่าไปเจอคนไข้เคสแบบนี้ แต่ไม่เชี่ยวชาญ ก็มีเพื่อนคนอื่นๆ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาตอบ มีคำถาม มีคนมาตอบเรื่อยๆ เหมือนเป็นการระดมสมองในที หมอบางคนอยู่ไกลถึงแม่ฮ่องสอน นราธิวาส ก็ส่งเคสมาถาม


"ผมเห็นไอเดียจากเขาที่นำเคสมานำเสนอ คนอยู่ไกลส่งเคสมาให้ หมออยู่ส่วนกลาง บางคนเป็นอาจารย์แพทย์ แนะนำให้ได้ เราคิดว่าถ้าทำให้ใหญ่ขึ้นสู่โลกภายนอก มันน่าจะดี"


เริ่มเปิดเพจ 15 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน มีคนกดไลค์ 1.7 แสน 5 หมื่นคำถาม คนถาม 1 หมื่นกว่าคน แต่ละคนอาจถามซ้ำอย่างน้อย 5 ครั้ง แต่ละครั้งที่หมอจะตอบคำถาม ต้องถามแล้วถามอีก เช่น คนไข้บอกปวดหัว ต้องถามว่าข้างซ้ายหรือขวา เห็นแสงไหม


ทำไมถึงใช้ชื่อว่า 'หมอบาทเดียว' ทั้งที่ความจริงไม่ได้เก็บเงิน? หมอเกมส์ตอบแบบขำๆ ว่า เพื่อนบางคนบอกขนาดเข้าห้องน้ำยังต้องนั่งตอบคำถามเลย เพราะตอบไม่ทัน เรามองว่าจริงๆ หมอไม่ทำก็ได้ แต่เขาสละเวลามาทำให้ เมื่อเวลามีค่า เราจะให้ค่าเท่าไรที่ไม่ใช่ฟรี ไม่ไร้ค่า เมื่อคุณกดอินเทอร์เน็ต เสียค่าใช้จ่าย เราตีเป็นเงินว่าบาทหนึ่งก็แล้วกัน จึงกลายเป็นแพทย์เฉพาะทางบาทเดียว


เอาเวลาตอนไหนตอบ? ศัลยแพทย์รายนี้ตอบว่า "ทุกเวลาที่ว่าง ผมเป็นหมอผ่าตัด ผ่าตัดเสร็จก็หยิบโทรศัพท์มานั่งตอบ ก่อนเปลี่ยนห้องผ่าตัด นั่งพัก ก็มาตอบคำถาม"


\'หมอทางบาทเดียว\' จิตอาสาในโลกออนไลน์ thaihealth


นพ.ชัยวัฒน์ วชิรศักดิ์ศิริ แผนก อายุรกรรม โรงพยาบาลศิริราช หนึ่งในทีมที่ตอบคำถามในห้องอายุรกรรม ทั้งที่ไม่รู้จักกับหมอเกมส์มาก่อน


"ผมตอบอย่างต่ำ 30 เคส ว่างเมื่อไรก็ตอบ สมาร์ทโฟนเป็นของคู่กาย ตอบไปเรื่อย (หัวเราะ) คนถามๆ สั้น แต่เราพิมพ์ตอบยาว เช่น ถามว่าไข้สามวันเป็นอะไร เราต้องถามว่าอาการไข้เป็นอย่างไร ปวดหัวหรือเปล่า เคยยุ่งมาก  ไม่ตอบ 3 วัน มีคำถามรอ 100 คำถาม ไล่ตอบแล้วเหนื่อยมาก  ตอบวันละ 30-40 คน ประทับใจหลายอย่าง เข้าใกล้คนไข้อีกก้าว คนไข้บางคนบอกตอบแทนหมอยังไง หรือบาทหนึ่งจ่ายยังไงครับ"


ยังใช้ชีวิตตามปกติ ออกกำลังกาย ดูหนัง ผมบอกเสมอว่าจะตอบเมื่อพร้อม หากเร่งด่วนให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลอย่ารอ หมอที่นี่ต้องทำภารกิจตนเองให้เสร็จก่อน ไม่ disturb ตัวเอง แรกๆ เห่อ เบิร์นตัวเองมาก และรู้สึกว่าชีวิตหายไป หงุดหงิดง่าย งานยุ่งตลอดเวลา พอตอบคนไข้ น้ำเสียง ก็หงุดหงิด คนทำงานควรมีความสุขก่อน เราจะตอบเมื่อพร้อม เผอิญเวลาพร้อมคือเวลาเดินทาง หรือรอสอนนักเรียนแพทย์ชั่วโมงต่อไป


"แน่นอนว่ามีบ้างที่คนไข้ไม่พอใจกับคำตอบ แล้วเหวี่ยงใส่ จนบางครั้งทำให้ท้อ แต่หมอก็มีวิธีการจัดการความรู้สึกลบๆ แบบนั้น


"พยายามคิดถึงคนที่ต้องการเราจริง หลายครั้งแสดงให้เห็นว่าเราสำคัญ ช่วยเขาได้ สิ่งนี้ช่วยพยุงจิตใจเรา แค่คนเดียวพูดไม่ดี แต่มีอีกสิบคนอยากให้ช่วย ก็กลับมาใหม่อีกรอบ คำถามไหนฟังแล้วแย่กับเรา ก็บอกหมอเกมส์ว่าขอไม่ตอบ 3 วัน ขอรีเซตตนเองก่อนแล้วจะกลับมาใหม่"


ทั้งหมดนี้ทีมคุณหมอสละเวลาว่างมาทำด้วยใจ ตอบช้าไปนิด หรือไม่ถูกใจ โปรดอย่าเหวี่ยง อย่าวีน ให้เสียกำลังใจ กันเลยน้า

Shares:
QR Code :
QR Code