ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

แฟ้มภาพ

ในช่วงหน้าฝน เด็กเล็กมักป่วยบ่อยจากโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งมือเท้าปาก ซึ่งในเดือน มิ.ย.-ส.ค.ของทุกปี เป็นช่วงที่พบผู้ป่วยสูง การป้องกันโรคมือเท้าปาก ทำได้โดยไม่พาเด็กเล็กไปในที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในช่วงหน้าฝน เด็กเล็กมักป่วยบ่อยจากโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งมือเท้าปาก ซึ่งในเดือน มิ.ย.-ส.ค.ของทุกปี เป็นช่วงที่พบผู้ป่วยสูง โดยในปี 2561 พบผู้ป่วยมือเท้าปาก 34,630 ราย คิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนผู้ป่วยตลอดทั้งปี สำหรับในปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-17 มิ.ย. พบผู้ป่วย 14,294 ราย จึงได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เฝ้าระวังสถานการณ์โรค และให้คำแนะนำศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนอนุบาล/ประถมศึกษา คัดกรองเด็กทุกวัน และล้างมือให้เด็กบ่อยๆ หากพบเด็กมีไข้ มีตุ่มแดงหรือมีแผลในปาก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ส้นเท้า ขอให้แจ้งผู้ปกครอง รับเด็กกลับบ้าน และทำความสะอาดห้องเรียน ของเล่น เครื่องเล่น เครื่องใช้ โต๊ะ เก้าอี้ ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

ปลัด สธ. กล่าวต่อว่า การป้องกันโรคมือเท้าปาก ทำได้โดยไม่พาเด็กเล็กไปในที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น สนามเด็กเล่น ห้างสรรพสินค้า ตลาด สระว่ายน้ำ ควรอยู่ในที่ที่มีการระบายถ่ายเทอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย ระมัดระวังการไอจามรดกันให้ใช้ผ้าปิดปากปิดจมูก ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังเตรียมอาหาร รับประทานอาหาร ภายหลังขับถ่ายทุกครั้ง ใช้ช้อนกลาง หลีกเลี่ยงการใช้แก้วน้ำหรือหลอดดูดน้ำร่วมกัน ทั้งนี้ ปัจจุบัน ยังไม่มียารักษาหรือวัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก แพทย์จะรักษาตามอาการ โดยให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด หยอดยาชาในปาก เพื่อลดอาการเจ็บแผลที่ปาก ดื่มน้ำเกลือแร่เพื่อชดเชยการขาดน้ำ หรือให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด ส่วนใหญ่จะหายไปได้เองในเวลา ประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนเด็กที่มีอาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะรับไว้รักษาเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล