หนุนหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19
ที่มา : เว็บไซต์มติชนออนไลน์
แฟ้มภาพ
หญิงตั้งครรภ์ จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ทางกรมอนามัยจึงเร่งประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเสี่ยงจากโควิด-19
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เผยว่า จากสถานการณ์การแพร่การระบาดของโควิด-19 ที่อุบัติขึ้น และเริ่มระบาดในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2563 อีกทั้งยังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและการเข้าถึงระบบบริการสุขภาพของประชาชน ประกอบกับหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง มีโอกาสเสียชีวิตสูงเมื่อติดเชื้อ และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดซึ่งจะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อเด็กและครอบครัว
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า กรมอนามัยได้ให้ความสำคัญและร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและ มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ได้ร่วมกันผลักดันนโยบาย ให้หญิงตั้งครรภ์ได้รับการดูแลที่เหมาะสมผ่านคลินิกฝากครรภ์ที่หญิงตั้งครรภ์ไปรับบริการอยู่ โดยให้หญิงตั้งครรภ์จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เช่นเดียวกับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค
“ในขณะที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 มากขึ้น กรมอนามัยได้มีการติดตามข้อมูลในกรณีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงมีการทบทวนวิเคราะห์สาเหตุการตายมารดาจากโควิด-19 เพื่อหามาตรการป้องกันและลดการเสียชีวิตร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดประชาชนบางกลุ่มเกิดความตระหนก หวาดกลัว ในขณะที่บางกลุ่มไม่ตระหนักและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
ขณะเดียวกันก็มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ผ่านทางสื่อสังคมต่าง ๆ มากมาย ก่อให้เกิดความสับสนแก่ประชาชนและกลุ่มหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร อาจส่งผลกระทบต่อการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และสุขภาพของประชาชนโดยรวม ซึ่งบุคลากรสาธารณสุขเป็นผู้ที่มีส่วนสำคัญในการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน
จึงจำเป็นต้องทราบถึงนโยบายการดูแลหญิงตั้งครรภ์ ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงมีความรู้สามารถให้บริการและคำแนะนำแก่หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้อย่างถูกต้อง ตลอดทั้งการบริหารจัดการการให้บริการในสถานพยาบาลสาธารณสุขได้อย่างเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ทั้งนี้ กรมอนามัย จึงขอเชิญชวนผู้บริหาร บุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข หญิงตั้งครรภ์ หญิงหลังคลอด และประชาชนทั่วไป รับฟังการเสวนา “การขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกัน โรคโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร” ในวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2564 เวลา 13.00 – 16.30 น. ผ่านทางระบบออนไลน์ (Zoom Meeting) พร้อมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live สำนักส่งเสริมสุขภาพ และ Facebook Live กรมอนามัย