หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อชีวิตคนไทยทุกคน
“วันงดสูบบุหรี่โลก” ซึ่งตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ปีนี้มีคำขวัญในการรณรงค์ว่า "หนุนกฎหมายบุหรี่ใหม่ เพื่อคุณภาพชีวิตคนไทย"
งานนี้สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่จัดใหญ่ จับมือภาคีเครือข่าย 721 องค์กร มอบรายชื่อประชาชนทั่วทุกภูมิภาค จำนวน 10,964,903 รายชื่อ ที่ร่วมสนับสนุน พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่แก่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากพิษภัยของการสูบบุหรี่
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แสดงความเห็นต่อการมี พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้สำคัญที่สุดคือ ปกป้องเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นการเอากฎหมายเก่า ตั้งแต่ปี 2553 มารวมไว้ อาทิ การห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ซึ่งสามารถปกป้องคนที่ไม่สูบบุหรี่ที่ใช้ชีวิตร่วมกันในที่สาธารณะได้ และยังทำให้คนสูบบุหรี่อยากเลิกบุหรี่มากขึ้นเพราะสูบไม่สะดวกด้วย
“ส่วนที่เกี่ยวกับเยาวชนชัดเจนคือ การไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะเป็น การบอกโดยรวมว่าบุหรี่เป็นเรื่องไม่ดี บุหรี่ต้องถูกควบคุม ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับใหม่มีผลต่อการป้องกันนักสูบหน้าใหม่ โดยเฉพาะในเรื่องของการห้ามโฆษณาบุหรี่ทั้งทางตรงและทางอ้อม แม้กระแสในสื่ออินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย เพราะเด็กรุ่นใหม่ใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ ทำให้พวกเขาเข้าถึงง่ายมาก”
ดร.นพ.บัณฑิต เพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีมาตรการ การห้ามแบ่งบุหรี่ขายเป็นมวนๆ แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ผลพลอยได้ในข้อนี้คือ เพราะเด็กมีรายได้น้อย เมื่อเขาซื้อได้ยากขึ้น บ่อยครั้งเขาก็จะตัดสินใจไม่สูบบุหรี่นั่นเอง จึงจำที่ประเทศไทยต้องมี พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่
สำหรับกิจกรรมดังกล่าวในช่วงเช้าได้มีขบวนจักรยาน 500 คัน ปั่นรณรงค์จากลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี มุ่งหน้าสู่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ต่อด้วยกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์จากนักศึกษาคณะทันตแพทย์ 100 คนจาก 10 มหาวิทยาลัย
น้องซันหรือนายปิยะวุฒิ ฐิติศักดิ์โยธิน ตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต เล่าว่า กิจกรรม ‘NO NO กระต่ายขาเดียว’ เป็นการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อปฏิเสธบุหรี่ โดยยืนยันกระต่ายขาเดียวไม่สูบบุหรี่ และเพื่อรณรงค์สนับสนุนการมี พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ ที่จะครอบคลุมไปถึงบารากู่ บุหรี่ไฟฟ้า และการซื้อขายบุหรี่แก่เยาวชน
“ปัจจุบันจะเห็นว่ามีผู้หญิงและเด็กที่สูบบุหรี่มากขึ้น เพราะมีช่องทางการขายที่หลากหลายแต่ยากต่อการควบคุม อย่างพวกโซเชียลมีเดีย ดังนั้นจึงคิดว่ากฎหมายฉบับใหม่จะอุดช่องโหว่ในเรื่องพวกนี้ และจะช่วยลดนักสูบหน้าใหม่ลงได้” น้องซันแสดงความเห็น
เช่นเดียวกับ น้องมิ้น หรือนางสาวธัญวรัตน์ ศรีเมือง อีกหนึ่งตัวแทนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล บอกว่า ‘บุหรี่’ ถือเป็นสินค้าที่มีพิษภัย ซึ่งไม่ว่าใครสูบบุหรี่ยังไงก็มีแต่โทษ และไม่ใช่แค่ตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีโทษต่อคนรอบข้างด้วย
“เราไม่สามารถไปควบคุมใครหรือบังคับใครให้เลิกบุหรี่ได้ แต่สามารถตักเตือนเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างให้เขารู้ถึงพิษภัยของบุหรี่และอยากเลิกด้วยตัวเองให้ได้ รวมถึงการทำกิจกรรมรณรงค์ในฐานะเยาวชนเพื่อบอกต่อข้อมูลว่าบุหรี่ไม่ดี เลิกบุหรี่วันนี้จะได้ทำเพื่อตัวเองและคนที่คุณรักด้วยค่ะ” น้องมิ้นทิ้งท้าย
นี่ก็เป็นเหตุผลหลักของ พ.ร.บ.ที่จะทำให้สามารถปกป้องเด็กและเยาวชนไทยได้
เรื่องโดย Team Content www.thaihealth.or.th
