หนังสือโดนใจผู้ต้องขังหญิง
ปรับทัศนคติบวกแก่ผู้ต้องขังหญิง แนะนำการอ่านหนังสือแนวปรัชญา และแนวสร้างพลังใจ
โครงการจากใจสู่ใจ คุณค่า ความสุข และพลังภายในที่แท้จริง งานเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้กระทำผิดในคุกเพื่อปรับทัศนคติของชุมชนและบุคคลรอบข้างเพื่อ ส่งมอบคนดีกลับคืนสู่สังคม ที่หน่วยงาน สำนักงานสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับศูนย์จิตตปัญญาศึกษา ม.มหิดล จัดขึ้นโดยใช้พื้นที่ในเรือนจำ จ.ขอนแก่น นำร่อง เลือกผู้ต้องขังหญิง 30 คนมาร่วม เพื่อให้คนเหล่านี้คิดบวกมีทัศนคติใหม่โดยใช้กิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเจริญสติ ด้วยการฝึกโยคะเพื่อให้จิตพ้นจากความเศร้าหมอง ชี้ให้เห็นหลักของการสื่อสาร สนทนา สร้างสัมพันธภาพระหว่าง ผู้ต้องขังเขียนบันทึกสะท้อนความรู้สึกส่วนตัว และการแนะนำให้อ่านหนังสือทั้งแนวปรัชญา แนวสร้างพลังใจ เป็นต้น
ประมาณหนึ่งปี ที่ผู้ต้องขังเรือนจำขอนแก่น ได้รับหนังสือใหม่ ๆ จากโครงการส่งหนังสือเข้าเรือนจำ มีหนังสือ 20 เล่มโดนใจผู้ต้องขังหญิง หลายคนมีความรู้สึกที่เปลี่ยนไปหลังจากได้อ่านหนังสือ
"อ่านฟ้าสีทองแล้วมีความสุขในจิตมากค่ะ เพราะเป็นครอบครัวที่มีความรักต่อ ลูก ๆ" ความรู้สึกของผู้ต้องขังหญิงหลังได้อ่านหนังสือ ฟ้าสีทอง"โดยงามพรรณ เวชชาชีวะ
"ฟ้าสีทอง" เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์การเมืองไทยในยุค 2500-2533 เขียนขึ้น ด้วยความเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้จะ ดีกว่า ผ่านตัวละครฝาแฝด ปลายกับท้ายและครอบครัว ที่ดำเนินเรื่องราวไปพร้อมกับเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลง ทั้งรัฐประหาร การต่อสู้เพื่อสิทธิต่าง ๆ ฯลฯ ด้วยความเชื่อในวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า เชื่อว่าความศรัทธาในความดีงามยังคงอยู่และแม้ในวันที่ฟ้ามัวหม่น
"อ่านทีไรน้ำตาไหลไม่หยุด เพราะสงสารความเจ็บป่วย ทรมาน และการจากที่เกิดขึ้น" ความรู้สึกของผู้ต้องขังหญิงที่มีต่อหนังสือ เยียวยาด้วยรัก
หนังสือเล่มนี้เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของคุณกานดาวศรี ตุลาธรรมกิจ และคนไข้ ของเธอ โดยคุณกานดาวศรี เป็นพยาบาล โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ผู้อุทิศตนด้วยความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ในการดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง โดยเฉพาะจากโรคมะเร็งให้จากไปอย่างสงบ ด้วยวิธีพยาบาลแบบองค์รวม ไปพร้อมกับการทำให้ซาบซึ้ง เพลินใจ ไม่ว่าจะเป็นคนยากดีมีจน เด็ก ผู้ใหญ่หรือมีปัญหาใดมา ทุกคนล้วนสามารถตายอย่างสงบได้
"เดินสู่อิสรภาพ" คือหนังสืออีกเล่มที่แต่งโดย ประมวล เพ็งจันทร์ โดนใจผู้ต้องขัง ที่ทำให้ได้ค้นพบความงดงามของมนุษย์ ซึ่งเราหลายคนอาจจะไม่คิดว่ามันจะยังหลงเหลืออยู่ได้อีกในโลกที่กลายเป็นสังคมที่บูชาคนรวยมากกว่าคนดี สังคมที่เงินคือปัจจัยหลักของการดำเนินชีวิตไปแล้วมนุษย์อาจเบียดเบียนทำลายกันเมื่อมีการต่อสู้แข่งขันกันมนุษย์อาจเมินเฉยไม่ใส่ใจในชะตากรรมของเพื่อนมนุษย์ เมื่อเขารู้สึกว่ามนุษย์ผู้อื่นไม่เหมือนเขา มีอะไรแตกต่างจากเขา แต่มนุษย์จะไม่ยอมให้เพื่อนมนุษย์อดตายต่อหน้าเขา
"คนที่อยู่ในความมืด เขาทั้งพยายามทุก ๆ อย่างเพื่อที่จะไม่ให้เป็นภาระของคนอื่น" ความรู้สึกของผู้ต้องขังมีต่อหนังสือของ วีระศักดิ์ จันทร์ส่งแสง เป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ ที่เผยแง่มุมชีวิตในบางมิติของผู้ที่มีความพิการทางสายตา หรือที่เราเรียกกันว่า "คนตาบอด" ซึ่งผู้เขียนก็ได้ถ่ายทอดออกมาด้วยภาษา ที่ชวนอ่าน ในรูปแบบของสารคดีในหนังสือเล่มนี้เราจะได้พบกับเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งจากผู้ที่พิการทางสายตาแต่กำเนิด สูญเสียดวงตาเพราะอุบัติเหตุ หรือเพราะผลแทรกซ้อนจากโรคร้าย แม้ว่าในขณะนี้พวกเขาจะมองไม่เห็น ราวกับตกอยู่ในความมืดมิด แต่ภายในจิตใจนั้นพวกเขายังมีแสงสว่างอยู่
"สุขประณีต" โดยรินใจ ที่ผู้ต้องขังสะท้อนออกมาว่า การเล่าเรื่องผ่านนิยาย ทำให้เราเรียนรู้การเอาความทุกข์สละออกจากใจ
หนังสือเล่มนี้พยายามบอกว่ามนุษย์ทุกคนย่อมปรารถนาความสุข แต่น่าสงสัยว่าเรารู้จักความสุขที่กำลังแสวงหาดีแล้วหรือ ทุกวันนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้คนที่ ใฝ่หาแต่ความสุขจากวัตถุเป็นหลัก และ ทำทุกอย่างเพื่อความสุขดังกล่าว โดยหาได้ตระหนักไม่ว่ามีความสุขที่ประเสริฐกว่านั้น ใช่แต่เท่านั้นบ่อยครั้งการไล่ล่าหาความสุขทางวัตถุ กลับทำให้เราต้องสูญเสียความสุขที่ประเสริฐกว่าไป
ดังนั้นเราจึงพบว่ามีผู้คนเป็นอันมากแม้จะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีชีวิตที่สะดวกสบาย แต่ ในใจนั้นหาความสุขไม่ได้เลย แม้ เขาจะมีเกือบทุกอย่างที่ชีวิตต้องการ แต่มีอย่างหนึ่งที่ขาดหายไป นั่นคือ ความสุขอันประณีต
นอกเหนือจากหนังสือเล่มดังกล่าวยังมีหนังสือเรื่อง "เช้าวันใหม่ ในเงามืด" โดยพิมใจ อินทะมูล "เมื่อแม่ตื่น" โดย คามิน คมนีย์ "อินเดีย จารึกด้านใน" โดย ประมวล เพ็งจันทร์
หนังสือในดวงใจของผู้ต้องขังอาจช่วยสร้างพลังให้หัวใจของคนที่อ่อนแอแพ้พ่ายผ่านไปได้บ้าง เพราะคนอยู่ในคุกนั้นทุกข์แสนสาหัส แต่บางครั้งหนังสือเพียงเล่มเดียวอาจหยุดทุกข์ในช่วงขณะหรือตลอดไปจนถึงวันพ้นโทษ
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต