`หนองกระทุ่ม’ ขจัดขยะสู่ชุมชนน่าอยู่
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
ภาพจาก เว็บไซต์เทศบาลตำบลหนองกระทุ่ม
ต.หนองกระทุ่ม อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองสุพรรณบุรี ประมาณ 76 กิโลเมตร มีประชากร 4,899 คน จำนวน1,506 ครัวเรือน
ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับจ้างเป็นหลักใกล้ๆ ชุมชนมีโรงงานน้ำตาลตั้งอยู่ ทำให้ช่วงฤดูตัดอ้อยจะมีประชากรแฝงเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับการขาดความรู้ความเข้าใจและวิธีกำจัดขยะที่ถูกต้อง ส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 1 และ หมู่ 4 ซึ่งมีประชากร 870 คน มีปริมาณขยะในครัวเรือนยังไม่รวมกลุ่มร้านค้าโดยเฉลี่ย 1 กิโลกรัม ต่อวันแยกเป็นขยะแห้ง 40% และขยะเปียก60% รวมปริมาณขยะในชุมชนวันละ 820 กิโลกรัม หรือเดือนละ 24.60 ตันโดยเฉลี่ย
"ขยะ" เป็นปัญหาที่ชาว ต.หนองกระทุ่ม ได้ให้ความสำคัญและทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง จึงได้จัดทำโครงการลดปริมาณขยะชุมชนหนองกระทุ่ม โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อให้ประชาชนมีความรู้และตระหนัก เกิดปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจัดการขยะที่ถูกต้อง ตลอดจนลดปริมาณขยะในชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่ชุมชนที่มีสภาพแวดล้อมน่าอยู่อาศัย
นายพนมกร กาฬภักดี ผู้รับผิดชอบโครงการฯ เล่าว่า เมื่อก่อนถ้าขับรถมาตามเส้นทางนี้ ก่อนเข้าหมู่บ้านจะเห็นขยะเต็มสองข้างทาง มีกลิ่นเหม็นโชยมา ตอนนั้นรู้เลยว่ากำลังเข้าเขต ต.หนองกระทุ่ม การจัดทำโครงการลดปริมาณขยะชุมชนหนองกระทุ่ม เริ่มจากการตั้งคณะกรรมการทำงานขึ้น 15 คน และหาแกนนำของแต่ละหมู่จำนวน 30 คน ได้ทั้งหมดประมาณ 100 คน แล้วให้ทั้ง 100 คนนี้ ลงพื้นที่หาชาวบ้านมาสมัครเข้าร่วมโครงการ โดยจะลงพื้นที่แจกโบรชัวร์ พูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านก่อนว่า จะทำโครงการลดขยะ ดังนั้นจึงมาขอความร่วมมือกับชาวบ้านในการลดขยะและส่งเสริมให้มีการคัดแยกขยะในครัวเรือน เพราะจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรถขนขยะของเทศบาลก็จัดเก็บได้ไม่เพียงพอและไม่ทันกับปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้น
"ขณะเดียวกันทางเทศบาลยังได้จัดทำถังคัดแยกขยะ 3 สีวางไว้ตามจุดสำคัญๆ ไว้เป็นตัวอย่าง ได้แก่ถังขยะสีแดงสำหรับขยะอันตรายถังขยะสีเขียว สำหรับขยะเปียกและถังขยะสีน้ำเงินสำหรับขยะรีไซเคิล เพื่อให้ชาวบ้านได้รู้จักการคัดแยกขยะ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะ และสามารถนำไปขายมีรายได้ เข้าครัวเรือน ขณะเดียวกันยังช่วยให้เจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะได้ง่ายขึ้นและสะดวกในการทำลาย" นายพนมกร กล่าว
จากการจัดเก็บข้อมูลโครงการลดปริมาณขยะชุมชนหนองกระทุ่ม พบว่าก่อนเริ่มโครงการจะมีปริมาณขยะ 12,333 กิโลกรัมต่อวัน และหลังเริ่มโครงการในสัปดาห์แรกมีปริมาณขยะลดลงเหลือเพียง 8,832 กิโลกรัม ซึ่งตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการพบว่า มีครัวเรือนเข้าร่วมโครงการ 626 หลัง หรือร้อย ละ 72 และปริมาณขยะลดลง 71.61% หรือ 501 กิโลกรัมต่อวัน
ส่วน นายละมูล เลิศหงิม คณะกรรมการโครงการ เพิ่มเติมว่า ภายหลังเริ่มโครงการพบว่า ชาวบ้านเริ่มมีความรู้ มีวินัยการทิ้งขยะมากขึ้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะคณะทำงานได้ทำป้ายห้ามทิ้งขยะหลายๆ จุดในเขตชุมชนพร้อมทั้งป้ายโครงการ และแทบจะทุกครัวเรือนมีการคัดแยกขยะ ที่ขายได้ก็เก็บรวบรวมไว้ ที่ขายไม่ได้ก็ใส่ถุงมิดชิดไว้ที่ถังขยะรอรถขยะเทศบาลมาจัดเก็บและบางคนทำปุ๋ยหมักไว้ใช้อีกด้วย ส่งผลให้รอบรั้วบ้านและภายในบ้านสะอาดขึ้น ขณะเดียวกันจากเมื่อก่อนที่หลายครัวเรือนจะเผาขยะส่งผลมีกลิ่นเหม็นและ ควันคละคลุ้ง เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว รถรับซื้อขยะก็น้อยลง เพราะปริมาณขยะลดลงไปมาก
"ในอนาคตคณะทำงานโครงการดังกล่าวจะสานต่อโครงการด้วยการทำ"ธนาคารขยะ" เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านมีช่องทางในนำขยะที่คัดแยกไว้มาขายในราคาที่เป็นธรรมและยังได้ข้าวของเครื่องใช้ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย และพยายามส่งเสริมให้แต่ละครัวเรือนทำปุ๋ยอินทรีย์จากเศษอาหารที่เหลือ ในครัวเรือนไว้ใช้ด้วย" นายละมูล กล่าว
โครงการลดปริมาณขยะชุมชนหนองกระทุ่ม ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว วันนี้ ต.หนองกระทุ่ม สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ทุกคนมองจากชุมชนสกปรกเต็มไปด้วยขยะ มาเป็นชุมชนที่สะอาดสะอ้าน และ "น่าอยู่น่ามอง"