หญิงไทยและอเมริกันตายก่อนวัยเพราะบุหรี่

เผยยอดตาย 5,793 คน วอนอีก 5 แสนคนที่สูบเลิก

หญิงไทยและอเมริกันตายก่อนวัยเพราะบุหรี่ 

          มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่เปิดเผยรายงานวิจัยของ ดร.สเตซี เคนฟิล และคณะจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์จามาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยติดตามความสัมพันธ์ของการสูบบุหรี่กับสาเหตุการเสียชีวิตของพยาบาล 104,519 คน ระหว่างพ.ศ.2523 ถึง พ.ศ.2547 รวมเวลา 24 ปี พบว่าพยาบาลเสียชีวิต 12,483 คน การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่าพยาบาลที่สูบบุหรี่มีอัตราการเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ 2.81 เท่าของพยาบาลที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ในขณะที่พยาบาลที่เลิกสูบบุหรี่ได้มีอัตราการเสียชีวิต 1.4 เท่าของพยาบาลที่ไม่สูบบุหรี่

 

          เมื่อแยกแยะการเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ พบว่า พยาบาลที่สูบบุหรี่เสียชีวิตจากโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเป็น 3.3 เท่า โรคถุงลมปอดโป่งพอง 39.0 เท่ามะเร็งปอด 21 เท่า มะเร็งชนิดอื่นๆ รวมกัน 7.25 เท่า และเสียชีวิตจากเหตุโรคอื่นๆ 1.87 เท่าของพยาบาลที่ไม่สูบบุหรี่

      

รายงานยังพบว่าในพยาบาลที่ยิ่งเริ่มสูบบุหรี่เมื่ออายุน้อย อัตราการเสียชีวิตยิ่งสูง และอัตราการเสียชีวิตลดลงเท่กับพยาบาลที่ไม่สูบบุหรี่หลังเลิกสูบได้ 20 ปี         

      

 รายงานของนายแพทย์ใหญ่สหรัฐอเมริการะบุว่า ในปี 2540 มีหญิงอเมริกาเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 165,000 คนรวมจำนวนหญิงอเมริกาที่เสียชีวิตทั้งหมด 3 ล้านกว่าคน ตั้งแต่ พ.ศ.2523 และหญิงอเมริกาที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่มีอายุสั้นลง 14 ปีต่อคน

      

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธุกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยรายงานวิจัยของคณะทำงานศึกษาภาระโรคและปัจจัยเสี่ยงของประชากรไทย กระทรวงสาธารณสุขพบว่า ในปี พ.ศ.2547 มีหญิงไทยเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ 5,793 คน โดยเป็นมะเร็งปอด 2,489 คน โรคมะเร็งอื่นๆ 396 คน โรคเส้นเลือดหัวใจและหลอดเลือด 762 คน โรงถุงลมพอง 1,361 คน ที่เหลือเป็นโรคอื่นๆ 785 คน โดยหญิงไทยที่เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่แต่ละคนโดยเฉลี่ยมีอายุสั้นลง 11 ปี และป่วยหนักจนคุณภาพชีวิตเท่ากับสูญเป็นเวลา 1.6 ปีก่อนเสียชีวิต รวมเป็นจำนวนปีที่หญิงไทยสูญเสียไปจากการเสียชีวิตก่อนวันอันควรจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่รวม 73,000 ปี เป็นความสูญเสียที่ไม่สามารถจะประเมินคุณค่าได้

      

            ศ.นพ.ประกิตเรียกร้องให้หญิงไทย 5 แสนกว่าคนที่สูบบุหรี่ในขณะนี้ให้พยายามเลิกสูบบุหรี่เพื่อลดโอกาสเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่และจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่วัยรุ่นที่ยังไม่ติดบุหรี่ โดยเฉพาะศิลปินดาราไม่ควรที่จะสูบบุหรี่อย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ เพื่อลดสิ่งที่กระตุ้นที่จะทำให้วัยรุ่นหญิงเข้ามาทดลองจนเกิดการเสพติดบุหรี่ขึ้น

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

update:15-07-51

Shares:
QR Code :
QR Code