หญิงลุยน้ำใส่กกน.พลาสติก / ป้องจุดซ่อนเร้นเสี่ยงติดเชื้อ
นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค(คร.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวการติดเชื้อในช่องคลอดและช่องทวารในช่วงน้ำท่วม ว่า มีความเป็นไปได้สูงอยู่แล้ว ที่อาจจะมีการติดเชื้อภายในช่องคลอดหรืออวัยวะในระบบสืบพันธุ์ทั้งของเพศหญิงและเพศชายในช่วงที่น้ำท่วมขังเนื่องจากในน้ำที่ท่วมขังส่วนใหญ่จะมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน เพราะไม่รู้ว่าน้ำที่ท่วมนั้น มีขยะและสิ่งปฏิกูลอยู่หรือไม่ และผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชายเพราะโดยสรีระผู้หญิงมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชายอยู่แล้ว เนื่องจากในอุ้งเชิงกรานของผู้หญิง จะมีทั้งช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และช่องทวารที่ใช้สำหรับขับถ่าย จึงมีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าไปได้ง่าย
“ขนาดผู้ชายซึ่งท่อปัสสาวะยาวกว่า ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ขณะที่ผู้หญิงความยาวของท่อปัสสาวะมีเพียง 1 ซม.เท่านั้น โอกาสที่จะติดเชื้อจึงมีมากกว่าผู้ชาย” นพ.รุ่งเรืองกล่าว และว่า ขอเตือนสุภาพสตรีว่าในช่วงที่น้ำท่วมขังนี้ถ้าหลีกเลี่ยงได้ไม่ควรแช่น้ำ หรือหากจำเป็นต้องลุยน้ำ ควรหากางเกงพลาสติกหรือถุงพลาสติกป้องกันบริเวณจุดซ่อนเร้นดังกล่าว ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ หลังจากลงแช่น้ำ หรือลุยน้ำให้รีบล้างทำความสะอาดทันทีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง
โฆษกกรมควบคุมโรคยังกล่าวอีกว่า ส่วนที่มีข่าวว่า มีการติดเชื้อราในช่องคลอดในช่วงน้ำท่วมขังนั้น ไม่น่าจะใช่เชื้อรา แต่น่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียมากกว่า เพราะอันตรายของเชื้อโรคที่อยู่ในน้ำท่วม จริงๆ แล้วคือเชื้อแบคทีเรียส่วนเชื้อราเท่าที่พบมีประมาณ 10% ของการติดเชื้อทั้งหมดเท่านั้น
นพ.ยุทธนา แสงสุดา ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านสิ่งแวดล้อมและกิจการพิเศษ รพ.ราชวิถีกล่าวถึงการกำจัดขยะติดเชื้อแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ห้ามเกิดการรั่วไหลหรือปนเปื้อน ซึ่ง รพ.ราชวิถี มีระบบในการจัดเก็บแยกจำเพาะไว้ในถุงสีแดง จากนั้นบรรจุไว้ในถังสีแดงอีกชั้น และนำไปแช่ไว้ในห้องเย็น เพื่อรอทางบริษัทที่ถูกว่าจ้างมารับไปเผากำจัดต่อไป แต่ในภาวะน้ำท่วมอาจประสบปัญหาการเดินทาง หากเป็นเช่นนั้นทางรพ.สามารถมีแผนโดยจัดเก็บไว้ในที่สูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมถึง ซึ่งจะสามารถเก็บได้ประมาณ 1 สัปดาห์
แต่ละวัน รพ.จะมีขยะติดเชื้อประมาณ1,000 กิโลกรัม ซึ่งหากบริษัทไม่สามารถเข้ามาดำเนินการภายใน 1 สัปดาห์ รพ.จะทำการเผาเอง ด้วยระบบปิดและระบบเผาอุณหภูมิสูง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ astv ผู้จัดการ