สู้ต่อไปงดเหล้าออกพรรษา

          ช่วงเข้าพรรษา 3 เดือนของกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา มีปรากฏการณ์ของ ผู้สนใจงดเหล้าเข้าพรรษาจำนวนมาก มีตัวเลขระบุว่าเลิกสุราจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 1,312 บาทต่อเดือนต่อคน ที่ผ่านมาคนไทยควักกระเป๋าซื้อเหล้าปีละกว่า 2 แสนล้านบาท ยังไม่นับความสูญเสียที่เกิดจากการดื่ม


/data/content/26037/cms/e_bcdimopqr269.jpg


          พญ.ริชาพรรณ ชูแกล้ว นายแพทย์ชำนาญการสถาบันธัญญารักษ์ กล่าวว่า ในช่วงเข้าพรรษาคนไข้ติดเหล้าใช้โอกาสนี้เข้ามาเลิกเหล้า มีทั้งแบบหยุดเองและหยุดไม่ได้ หลายรายเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนทั้ง ชักเกร็ง มีอาการทางจิต หงุดหงิด หูแว่ว สำหรับการรักษาผู้ติดเหล้าคือเริ่มต้นด้วยการ ใช้ยา ในรายที่เริ่มมีประสาทหลอน ร่างกายอ่อนเพลียจนทนไม่ได้ต้องกลับไปหาเหล้า เรียกว่าช่วงถอน


          โดยแพทย์จะประเมินอาการ ช่วงที่ 2 คือการฟื้นฟู สิ่งที่ได้ผลต้องเปลี่ยนสภาพแวดล้อม อีกทั้งครอบครัวคนใกล้ชิดต้องให้กำลังใจอย่าพูดในเชิงซ้ำแซะ อาทิ วันนี้ไม่กินเหล้า หรือว่าจะเลิกได้จริง และติดตามผลเพื่อดูว่าคนไข้สามารถหยุดได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้คนไข้ ต้องรู้จักควบคุมสมองส่วนกลาง ส่วนสัญชาตญาณ ต้องตัดสิ่งเชื่อมโยงเช่นเมื่อมีเงินก็ออกไปดื่มเหล้า ผู้เลิกควรฝากเงินไว้กับคนในครอบครัวเป็นต้น


          "การเลิกเหล้าเหมือนกับการเลิกกับแฟน ไม่มีวันที่จะลืมเพราะสมองจำได้เช่นเดียวกับสมองที่จำความสุขของการดื่มได้ แต่จะกลับไปไม่ได้แล้วอาจเพราะเขามีครอบครัวไปแล้ว หรือเขาเป็นคนไม่ดีความนึกคิดชนิดนี้ใช้สมองส่วนหน้าจึงต้องพยายามฝึกสมองให้ได้"


          ก่อนเทศกาลออกพรรษา สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลและสถาบันธัญญารักษ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ "สร้างกำลังใจ…สู้ต่อไปงดเหล้าออกพรรษา" ในงานมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ "เซียนเหล้า ล้างมือในอ่างทองคำประกาศเลิกเหล้า"


          นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ชื่นชมคนที่งดเหล้างดอบายมุขช่วงเข้าพรรษา และเชิญชวนให้คนไทยงดต่อไป เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กและเยาวชน


          จากข้อมูลการสำรวจระบาดวิทยาระดับชาติครั้งล่าสุด พบว่า อายุผู้ติดเหล้าเฉลี่ยจากที่มีอายุ 30-45 ปีขึ้นไป ลดเหลือเพียง 20-30 ปีเท่านั้น โดยภาพรวมมีผู้ติดสุราราว 4.3 ล้านคน 1 ใน 4 หรือกว่า 1 ล้านคน อายุ 15-25 ปี ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโรคเรื้อรังหลายชนิด อย่างไรก็ตามคาดว่าออกพรรษานี้ จะมีหลายครอบครัวที่พร้อมใจลดละเลิกหลายชนิด อย่างไรก็ตามคาดว่าออกพรรษานี้ จะมีหลายครอบครัวที่พร้อมใจลดละเลิก


          "เมื่อมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เข้ามา ให้คำแนะนำช่วยเหลือ และพาไปรักษาที่สถาบันธัญญารักษ์ ถูกเจ้าหน้าที่กักบริเวณ 20 วัน ต้องทานยาก่อนและหลังอาหาร 3 เวลา ออกกำลังกายทุกวัน ตอนนั้นรู้สึกดีขึ้นและไม่คิดกลับไปดื่มอีกแล้ว แต่พอออกจากโรงพยาบาล ก็กลับมาดื่มซ้ำอีกเป็นครั้งที่ 3 จนพี่สาวเริ่มรับไม่ได้ ทะเลาะกันเป็นประจำ สู้ต่อไปงดเหล้าออกพรรษาไม่มีใครอยากคบหา จึงเริ่มรู้สึกว่าชีวิตไม่มีคุณค่าจึงคิดอยากจะเลิกดื่ม จนกระทั่งตัดสินใจหักดิบ และอดทนจนตอนนี้เลิกดื่มได้ 2 เดือนแล้ว" น.ส.สายทอง ฤกษ์สระ อายุ 47 ปี อาชีพขายอาหารในโรงเรียนย่านท่าพระ กรุง เทพฯ เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตที่เคยติดสุราว่า


          ย่านท่าพระ กรุง เทพฯ เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตที่เคยติดสุราว่า เริ่มดื่มสุราตั้งแต่อายุ 16 ปี ช่วงวัยรุ่นอยากรู้อยากลอง จากนั้นเริ่มหันมาดื่มยาดอง ดื่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ พออายุ 20 ปี เข้าสู่วัยทำงานดื่มทุกวันทั้งเช้าเย็นจนติด ที่หนักสุดดื่มติดต่อกัน 1 เดือนโดยที่ไม่ทานข้าวเลย กระทั่งต้องออกจากงาน


          น.ส.สายทอง บอกด้วยว่า เมื่อย้อนคิดถึงช่วงที่ติดสุรา รู้สึกขยาดมาก เพราะเกือบเอาชีวิตไม่รอด ต่อไปนี้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ตกเป็นทาสสุรา ต้องขอบคุณมูลนิธิฯ และพี่สาวที่คอยให้กำลังใจจนกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ชีวิตตอนนี้ดีขึ้น มีเงินเก็บ มีงานทำ พี่สาวมีความสุขมากขึ้น


          "ขอให้คนที่ดื่ม ดูผลกระทบที่ตนได้รับมาเกือบทั้งชีวิต แล้วเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ควรเลิกดื่มและหันมาเลือกสิ่งที่ดีให้กับชีวิต ตัวเอง" ข้อเตือนใจของคนที่ติดเหล้าอย่างหนักมาเกือบค่อนชีวิตจากสายทอง


 


 


          ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Shares:
QR Code :
QR Code