สูตรยาสามัญประจำใจแก้ปัญหา “แม่วัยรุ่น”
“อย่าชิงสุกก่อนห่าม”ผู้ใหญ่มักจะใช้เตือนคู่หนุ่มสาวที่คบหาเป็นแฟนกันเพื่อเตือนสติว่าหากยังไม่ถึงเวลาอันควรที่ทั้งสองคนมีความพร้อมที่จะใช้ชีวิตคู่แล้วยังไม่ควรให้ความสัมพันธ์ถลำลึกเกินเลยไป
แต่ดูเหมือนว่าประโยคนี้จะไม่มีความหมายอะไรเลยกับวัยรุ่นในยุคปัจจุบันเพราะจากการสำรวจของสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขที่มีการสำรวจเป็นประจำทุกปีโดยการเก็บข้อมูลจากผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีที่มาทำแท้งในโรงพยาบาลของรัฐและจากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ที่มีผู้มาแจ้งเกิดซึ่งจะต้องมีการระบุชื่ออายุผู้ที่เป็นมารดาด้วยพบว่าข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2553 มีจำนวนวัยรุ่นที่ตั้งท้องสูงถึงประมาณ 128,000 คนหรือคิดเป็นร้อยละ 16 ของจำนวนสตรีที่ตั้งท้องและมาทำคลอดทั้งประเทศที่จะมีเฉลี่ยปีละ 800,000 คนต่อปีซึ่งจำนวนนี้ยังไม่รวมผู้ที่ไปทำแท้งเถื่อนซึ่งไม่สามารถสำรวจหาข้อมูลที่แน่นอนได้แต่จากการประมาณการแล้วหากรวมจำนวนผู้ที่ไปทำแท้งเถื่อนด้วยจะมีจำนวนแม่วัยรุ่นสูงกว่าร้อยละ20 เป็นปัญหาที่หลายฝ่ายเป็นห่วงและพยายามที่จะช่วยกันหาทางแก้ไข
งานมหกรรมสุขภาพชุมชนครั้งที่ 2 เป็นเวทีหนึ่งที่มีการนำประเด็นนี้มาพูดถึงโดยเป็นการหารือในเวทีการประชุมวิชาการการสร้างเสริมสุขภาพในกลุ่มเยาวชน : การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมจัดโดยชมรมพยาบาลชุมชน
นางจรรยาวัฒน์ ทับจันทร์ ประธานชมรมพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย ซึ่งทำงานร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่าจากการสอบถามเด็กที่มาฝากท้องที่โรงพยาบาลสูงเนิน พบว่า ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร จนนำไปสู่การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมาจากความไม่รู้ความไม่เข้าใจในเรื่องเพศศึกษาของตัวเด็กเองดังนั้นในพื้นที่ดังกล่าวจึงมีการตั้งคลินิกเพื่อนใจวัยรุ่นในร้านเสริมสวย 2 แห่งเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องเพศโดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เพื่อให้วัยรุ่นมีความเข้าใจเรื่องเพศที่ถูกต้องและแจกถุงยางอนามัยให้
ขณะที่ น.ส.ผาสุข แก้วเจริญตา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการโรงพยาบาลลับแล จ.อุตรดิตถ์ ในฐานะหัวหน้าโครงการพัฒนาศักยภาพพ่อแม่และวัยรุ่นในการแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์ในวัยรุ่นมัธยมศึกษาตอนต้น จ.อุตรดิตถ์กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะต้องเริ่มจากครอบครัวพ่อแม่ผู้ปกครองควรใช้สูตรยาสามัญประจำใจ 4 ข้อคือ 1.ฟังมากกว่าพูด 2.จับถูกคือหาข้อดีของลูกไม่ใช่จ้องแต่จะจับผิด 3.กอดเพื่อสร้างสัมพันธ์ และ 4.การเจรจาอย่างสันติขณะเดียวกันในชุมชนจำเป็นที่จะต้องสร้างเครือข่ายในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ด้วย
ทางด้าน นางดวงเนตร เพ็ชรกิจ อาจารย์ชำนาญการพิเศษอาจารย์ฝ่ายแนะแนว โรงเรียนบ้านหนองสรวง ต.หนองสรวง อ.ขามทะเลสอ จ.นครราชสีมา บอกว่าทางโรงเรียนมีการนำหลักสูตรเพศศึกษามาสอนให้เด็กตั้งแต่ชั้นอนุบาลตั้งแต่ปี 2548 โดยก่อนจะมีการสอนดังกล่าวจะมีการหารือกับทางผู้ปกครองก่อนเพื่ออธิบายให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าจะมีการสอนอะไรบ้าง โดยเชื่อว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร และแก้ปัญหาแม่วัยรุ่นได้ เทศกาลแห่งความรักที่ใกล้จะถึงนี้ เป็นช่วงที่หนุ่มสาวจำนวนมากปล่อยตัวปล่อยใจถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เป็นที่มาของการตั้งครรภ์และปัญหาแม่วัยรุ่น ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงต้องหันมาใส่ใจแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ก่อนที่ปัญหานี้จะลุกลามต่อเนื่องจนกลายเป็นปัญหาวิกฤติสังคมตามมา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด