‘สูญเสียกันทุกฝ่าย’ ผลกระทบมากกว่าที่คิด
ที่มา : ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 องศา
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ ไม่ได้มีผลกระทบแต่กับเราคนเดียวฝ่ายเดียวเท่านั้น หากแต่มัน "สูญเสียกันทุกฝ่าย" ส่งผลกระทบไปทั้งหมด ดังนั้นแล้ว จะขับรถครั้งใด ตระหนักไว้เสมอว่า 'มีคนมากมายที่จะต้องเสียใจและสูญเสีย' ถ้าเราประมาท
แม้ในปีหลังๆ คนส่วนมากจะเริ่มมีการตระหนักเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนมากขึ้นแล้วแต่ทว่าอีกด้านหนึ่ง สถิติการเกิดอุบัติเหตุก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่
น่าตกใจ ช่วงปีเก่า เข้าปีใหม่ 2560 ที่ผ่านมา มีสถิติอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากกว่า 300,000 ครั้ง มีคนเสียชีวิตมากถึง 22,356 คน ส่วนคนที่บาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัด ต้องแอดมิดเมื่อปีที่แล้ว สูงถึง 150,000 คน! (ที่มา : สถิติจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ปี 2559 ข้อมูลออกหน่วย 1669 กรณีฉุกเฉิน อันดับ 1 คือ อุบัติเหตุทางถนน 387,009 ครั้ง)
และในจำนวน 150,000 คน มีประมาณ 4.6% ที่ต้องลงเอยด้วยความพิการทางร่างกายอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ในทุกๆ ปี จะมีคนจำนวนกว่า 6,000 คน กลายเป็นผู้พิการ
ทั้งหมดทั้งมวลนั้น ก็ไม่ใช่เพราะอะไรหากแต่เกิดจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งนั้น
โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุอันนำไปสู่การบาดเจ็บและสูญเสียดังกล่าว ก็คือการดื่มแล้วขับ ซึ่งจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ช่วง 7 วันอันตราย ปีใหม่ 2560 พบว่า มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ เพิ่มขึ้นจาก 7,805 รายเป็น 8,820 ราย
นอกจากนั้นแล้ว การขับรถเร็ว การขับรถทั้งๆ ที่อ่อนล้าแล้วหลับใน รวมทั้งการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย ก็เป็นอีกปัจจัยที่นำไปสู่อุบัติเหตุที่น่าเศร้า และเชื่อเถิด ว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุความสูญเสีย เราไม่ได้เศร้าเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน แต่มันเศร้ากันทุกฝ่าย
ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์โฆษณาที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากอยู่ในขณะนี้ เรื่อง "สูญเสียกันทุกฝ่าย" ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ที่มีความมุ่งหวังตั้งใจอย่างยิ่งยวดในการกระตุ้นให้ทุกๆ คนในสังคมได้รับรู้ถึงความรู้สึก "สูญเสีย" ซึ่งถ่ายทอดผ่านบทเพลงแห่งความ "คิดถึง" ที่ใครหลายๆ คนต้องเคยได้ยิน เป็นการส่งผ่านความรู้สึกของผู้ที่สูญเสียคนสำคัญในชีวิต เพื่อให้ความรู้สึกที่เกิดจากการรับชม เปลี่ยนเป็น "สติ" และ"ความไม่ประมาท" ในการขับขี่ เพื่อการเดินทางกลับบ้านปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ และในทุกๆ วัน ตลอดไป
ไม่อยากให้คิดกันสั้นๆ แค่ว่า จะเป็นอะไรไป ก็เรื่องของตัวเอง ไม่เกี่ยวกับใครอื่น ทั้งที่ความจริงแล้ว มันส่งผลกระทบถึงคนอื่นๆ อีกมากมาย
นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธินโยบายถนนปลอดภัย ให้ความเห็นว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมานั้น มันจะสร้างผลกระทบมากกว่าที่คิด
"ความสูญเสียมันไม่ได้จบเพียงแค่อุบัติเหตุนั้นครับ แต่ผลกระทบมันไกลมาก ถ้าคนที่คุณขับรถชน เขาเป็นเสาหลักของครอบครัวลูกหลานเขาที่กำลังเรียนอยู่ เขาจะเรียนต่อได้ยังไง ต้องออกจากงานไหม"
"หรือการที่คุณขี่มอเตอร์ไซค์และไม่อยากสวมหมวกกันน็อก เพราะคิดว่าไปใกล้ๆ หรือมองว่าเป็นเรื่องของตังเอง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ คุณไม่ได้น็อกคนเดียว แต่ครอบครัวของคุณจะน็อกไปด้วย เพราะถ้าคุณไม่สวมหมวกกันน็อกขับรถเกิดอุบัติเหตุแล้วพิการ ถามว่า ใครต้องดูแลคุณ"
"ไม่ใช่คุณที่สูญเสียเพียงคนเดียว แต่ทุกคนทุกฝ่ายต้องสูญเสีย ผลกระทบที่เกิดขึ้น มันมากกว่าที่เราคิด" นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ กล่าวย้ำ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ จะเป็นอีกหนึ่งเสียงแห่งความห่วงใยที่จะกระตุ้นให้เราทุกคนตระหนักถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เพื่อกลับไปหาคนที่เรารักและรักเราไม่ว่าจะช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือวันไหนๆ ก็ตาม