สุขภาพพนักงาน พื้นฐานองค์กรแห่งความสุข
ความสุขของมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายนอกจากค่าตอบแทนจากการทำงานที่สมเหตุ สมผลแล้วและได้ทำงานที่รักภายใต้องค์กรที่สร้างความสุขให้กับคนทำงานได้ทุกระดับ คือที่สุดของออฟฟิศในยุคนี้
สำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้สนับสนุนให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน มีความสุขจากการทำงาน ที่เรียกว่า Happy Workplace
ตัวอย่างขององค์กรที่เดินหน้าเรื่องของ Happy Workplace ได้สร้างนวัตกรรมแห่งความสุข ต้นแบบให้องค์กรอื่นนำไปเป็นต้นแบบได้ อาทิ ไร่กำนันจุล ดำเนินธุรกิจการเกษตรมากว่า 70 ปี มีพนักงาน 1,200 ชีวิต ที่ผ่านมาบริษัทจัดหาอาหารฟรีให้ แต่ได้รับเสียงสะท้อนจากคนรุ่นใหม่ว่าควรแปลงสวัสดิการเป็นทุน รวมทั้งเห็นว่าอาหารไม่อร่อยหรืออยากทานอย่างอื่น บางคนไม่เห็นคุณค่าอาหาร ปัจจุบันจึงเปลี่ยนให้มีการจ่ายค่าอาหารเป็นมื้อละ 8 บาท ทำให้พนักงานได้เห็นคุณค่าของอาหารมากขึ้น
ปัญญา อุทัยอ่วม รองหัวหน้าแผนกประมงไร่กำนันจุล เล่าว่า ในส่วนของแผนกประมงส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย หลังเลิกงานมักนั่งสังสรรค์ดื่มเหล้าหน้าปากซอย เงินไม่ถึงลูกเมีย เขาจึงได้ริเริ่มโครงการ เงินค่าเหล้าเราให้ลูก โดยรูปแบบจะเอาเงินค่าเหล้าที่สังสรรค์แต่ละครั้งไปหยอดกระปุกเขียนชื่อแปะไว้ วางไว้ในห้องประชุมพอสิ้นเดือนนำเงินมานับต่อหน้าเพื่อน ร่วมงาน จากเดิมมีคนเข้าร่วมเพียง 5 คน ถึงตอนนี้เพิ่มเป็น 98 คน เพราะทุกคนเห็นเงินที่งอกเงย ขึ้นมาจากการที่ไม่ดื่มเหล้า
ขณะที่องค์กรใหญ่มีระดับอย่าง โตโยต้า ได้ให้ความสำคัญกับ Happy Workplace โดยมีวิถีแบบโตโยต้าเป็นตัวตั้งบริษัทจัดหาค่าตอบแทนให้พนักงานมีความสุขโดยให้เหตุผลสำคัญคือความมั่นคงและผู้บริหารเห็นคุณค่าของพนักงาน ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัทมีนโยบายไม่ปลดพนักงานออก แต่ผู้บริหารยอมลดเงินเดือน ในห้องทำงานของแต่ละแผนกพนักงานจะนั่งรวมกัน ไม่มีห้องผู้บริหาร พนักงานสามารถเข้าพบผู้บริหารได้โดยง่าย
ด้านสวนสามพราน โรสการ์เด้น ริเวอร์ไซด์ ในฐานะผู้ทำธุรกิจท่องเที่ยว อรุษ นวราชผู้บริหารสวนสามพรานฯ บอกว่า ทุก ๆ ปีจะมีการพาพนักงานไปดูงานปีละครั้ง โดยจะเข้าศึกษาดูงานในองค์กรธุรกิจโรงแรมที่ดีกว่าเรา เพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้และนำกลับมาปรับปรุงพัฒนา
ล่าสุด สสส. ได้จัดงานสัมมนาวิชาการ Happy Workplace Working Group Meeting 2015 "สุขภาพของพนักงานคือพื้นฐานขององค์กรแห่งความสุข" โดย นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวเปิดเวทีสัมมนานี้ว่า "องค์กร" เป็นเป้าหมายและกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและสร้างเสริมคุณภาพชีวิต โดยช่วงปี 2558-2560 สสส. จะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการบูรณาการทำงานของภาคีเครือข่าย ซึ่งการสัมมนาครั้งนี้ จะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานด้านการ ส่งเสริมสุขภาพจากขององค์กรภาคธุรกิจต้นแบบ เช่น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
"วันนี้เราไม่ได้พูดถึงวิธีการออกกำลังกายแบบเดิมแบบตะวันตกบางคนวิ่งแล้วเหนื่อย ไม่ไหวเพราะทำงานทั้งวันก็เหนื่อยแล้ว อาจไปเล่นโยคะแทน ทำให้ร่างกายมีกิจกรรมตลอดเวลา ก่อให้ชีวิตยั่งยืน ปัญหาสุขภาพมีประเด็นทางเศรษฐกิจเข้ามาด้วย สูบบุหรี่ กินเหล้ามากเงินน้อยลง มีปัญหาสังคมครอบครัวเข้ามา ครอบครัวพนักงาน พนักงานมีครอบครัวอบอุ่น พนักงานบริโภคอาหารที่ถูกต้อง ออกกำลังกาย เลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล่านี้คือสิ่งที่สสส.จะสนับสนุนต่อไป สุขภาพของพนักงานคือพื้นฐานแห่งความสุข" ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จากข้อมูลสำนักสถิติแห่งชาติ ประเทศไทยมีแรงงานที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคมกว่า 10 ล้านคน ในสถานประกอบการทุกขนาดกว่า 400,000 แห่ง เป็นกลุ่มเป้าหมายในการสร้างเสริมสุขภาวะที่ดี
"Happy Workplace เพื่อเตรียมคนให้พร้อมทำงานไม่ได้หมายความว่ามีความสามารถในการทำงานอย่างเดียวแต่มีร่างกาย จิตใจ สติปัญญา มีวิถีทางสังคมพร้อมจริง ๆ คือเรื่องสุขภาวะ" ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุน สุขภาวะองค์กร (สสส.) บอกถึงความสุขจากการทำงาน…
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์