สุขภาพดีทั้งกายใจ เริ่มต้นได้ที่การหันกลับมารักตัวเอง
เรื่องโดย ปัญจวรา บุญสร้างสม Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจาก สสส.
วัชรารัศมิ์ สุนทรวนาเวศ หรือที่หลายคนรู้จักคุ้นเคยในชื่อของ ตา สุรางคณา สุนทรพนาเวช อดีตรองนางสาวไทย ปี 2534 นักแสดงและพิธีกรมากฝีมือ ที่ฝากผลงานไว้มากมายทางหน้าจอโทรทัศน์
เมื่อถามถึงเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพ คุณตาเล่าให้เราฟังว่า หลายคนรู้ดีว่าควรทำอย่างไรให้ร่างกายแข็งแรง แต่พอจะลงมือทำก็ทำไม่ได้ หรือไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อันดับแรกที่เธอทำ คือ การฝึกใจให้ทำสิ่งที่ตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ดื่มน้ำมาก ๆ ปรับการรับประทานอาหารให้หลากหลาย และมีประโยชน์ พยายามเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ นอกจากนี้ ก็จะหาเวลาออกกำลังกายด้วย ซึ่งกิจกรรมที่ชอบทำ คือ ว่ายน้ำ โยคะ และตีกอล์ฟ ซึ่งจะพยายามทำให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
คุณตา เล่าต่อว่า การดูแลสุขภาพสำหรับเธอแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การดูแลสุขภาพกาย และการดูแลสุขภาพจิตใจ ซึ่งถ้าเราฝึกใจได้ดี เราก็จะสามารถดูแลร่างกายให้ดีได้ตามที่ตั้งใจไว้ด้วย แต่ถ้าเราไม่เคยได้ฝึกใจเลย เราก็มักจะทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่สำเร็จ ในส่วนของการฝึกใจนั้น เมื่อเกิดปัญหาขึ้น เธอจะทำความเข้าใจก่อนว่าเป็นปัญหาหรือเรื่องราวแบบไหน หากเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ก็ให้ยอมรับตามจริง รู้สึกตามนั้น อย่าไปกด ข่ม หรือห้ามความรู้สึกนั้นไว้ การอยู่กับความจริง อาจจะทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด แต่หากเราฝึกที่จะอยู่กับมัน ยอมรับมันได้ ความเจ็บนั้นก็จะจบลงได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าหากเรายิ่งฝืน ก็ยิ่งจะทำให้เราคิดซ้ำ ๆ ทุกข์ ซ้ำ ๆ ไม่จบไม่สิ้น
“การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวัน ทุกเวลาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว อยู่ที่ว่ามันจะส่งผลกระทบต่อตัวเราหรือไม่ แต่การใช้ชีวิตตามวิถี New Normal หรือหลักชีวิตวิถีใหม่นั้น เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อคนทั้งโลก ทุกคนต่างได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป สิ่งแรกที่ต้องทำเพื่อปรับตัวนั้น เริ่มจากการยอมรับ ยอมรับว่าทุกสิ่งมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ใจเราก็จะโล่งขึ้น เบาขึ้น พอเรารู้สึกเบาขึ้น เราก็จะมีปัญญา และสามารถคิดหาทางแก้ไขปัญหาต่อไปได้” คุณตากล่าว
สำหรับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจตามแบบฉบับของเธอนั้น อันดับแรก คือ ต้องมีเวลาให้กับตัวเอง มีเวลาอยู่กับลมหายใจ ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะอย่างมีสติ เช่น เวลารับประทานอาหาร ก็ตั้งใจรับประทาน ค่อย ๆ เคี้ยว จดจ่ออยู่กับสิ่งตรงหน้า ไม่เล่นมือถือไปด้วย ซึ่งจะทำให้เราสามารถเคี้ยวอาหารได้ละเอียด ช่วยให้ร่างกายย่อยง่ายขึ้น ได้สัมผัสรสชาติของอาหารอย่างเต็มที่ ถือเป็นการผ่อนคลายจิตใจไปในตัวด้วย
คนเราไม่ควรทำหลาย ๆ สิ่งพร้อม ๆ กัน ควรจะทำกิจกรรมทีละอย่าง ร่างกายก็เปรียบเหมือนเพื่อนของเรา ถ้าเราดูแลเอาใจใส่ตัวเอง ร่างกายก็จะแข็งแรง ระบบต่างๆ ก็จะทำงานได้อย่างเต็มที่ เราสร้างเหตุอย่างไร เราก็จะได้ผลอย่างนั้น ดังนั้น เราจึงควรใส่ใจตัวเอง หันหลับมาดูแลตัวเอง สำรวจร่างกายของตัวเองว่าเราขาดอะไร หรือมีส่วนเกินอะไรบ้าง หากเรารักตัวเอง เราจะดูแลตัวเองอย่างดี ไม่ทำสิ่งที่เป็นการทำลายหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพ แค่เราหมั่นสำรวจตัวเอง เราก็จะรู้ว่าควรดูแลตัวเองอย่างไร เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจไปพร้อม ๆ กันแล้ว
สุดท้ายเธอได้ฝากข้อคิดเกี่ยวกับพิษภัยของเหล้า บุหรี่ว่า เธอเชื่อว่าทุกคนต่างทราบดีอยู่แล้วว่า ภัยของเหล้า บุหรี่นั้นมีมากมายขนาดไหน แต่ตราบใดที่คนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านั้น เขายังไม่ได้สัมผัสความทุกข์ ความเจ็บปวด เขาอาจจะยังไม่เข้าใจชัดเจน และไม่มีกำลังใจมากพอที่อยากจะเลิก วิธีการที่อาจจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ คือ การไปโรงพยาบาล ไปสัมผัส ไปเห็นผู้ป่วยจริง ๆ จากโรคต่าง ๆ ว่าพวกเขามีความทุกข์มากขนาดไหน เพราะเราต่างรู้ว่า เหล้า บุหรี่ไม่ดีอย่างไร แต่ไม่ได้ “รู้สึก” หากเราได้เห็นผู้ป่วย แล้วใจเรารู้สึกหรือสัมผัสได้ถึงความทุกข์ ความเจ็บปวดจากโรคภัยเหล่านั้น เราก็จะไม่อยากเป็นแบบนั้น และเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลด ละ เลิกปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลเสียร้ายแรงต่อสุขภาพ
แม้ว่ามรสุมใหญ่อย่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังไม่ผ่านพ้นไป แต่เราก็ยังต้องมีความหวัง สสส. ขอชวนทุกคนยกระดับสู้ ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้องและเป็นกิจวัตร ดูแล รักษาสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจให้แข็งแรง ล้างมือให้บ่อย สวมหน้ากากป้องกัน เว้นระยะห่าง รวมทั้งรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ตามหลักโภชนาการ ออกกำลังกายหรือมีกิจกรรมทางกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อในวันที่สถานการณ์ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว เราจะได้มีทั้งพลังกายและพลังใจที่เต็มเปี่ยมในการดำเนินชีวิตต่อไป