สุขภาพจิตไทยเจ๋ง!!

ยิ่งอายุมาก…ยิ่งมีความสุข

 

 สุขภาพจิตไทยเจ๋ง!!

          เผยคนไทยยิ้มได้ มีสุขภาพจิตดี แม้เจอปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า โดยเฉพาะคนอายุมากยิ่งมีสุขภาพจิตที่ดี อาชีพข้าราชการมีความสุขมากที่สุด ส่วนแรงงานไม่ค่อยดี สสช. พร้อมตามติดข้อมูล คาดปัญหาต่างๆ อาจจะยังส่งผลลบไม่สุด

 

          เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 52 นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) เปิดเผยว่า สสช. ได้ร่วมมือกับกรมสุขภาพจิต สถาบันวิจัยประชากรและสังคมมหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำรวจสุขภาพจิตของคนไทย เพื่อเสนอข้อมูลด้านสุขภาพจิตของคนไทย ตามภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปกำหนดนโยบายและวางแผนแก้ปัญหาสังคมและสุขภาพจิตได้อย่างตรงจุด พบว่าคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป มีคะแนนสุขภาพจิตอยู่ที่ 31.80 คะแนนจากคะแนนเต็ม 45 คะแนน ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้

 

          สำหรับสุขภาพจิตของคนทั่วไป ร้อยละ 54.54 มีสุขภาพจิตเท่ากับคนทั่วไป รองลงมาคือ สุขภาพจิตสูงกว่าคนทั่วไป ร้อยละ 27.69 และมีประมาณ 1 ใน 5 ที่มีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไป คือร้อยละ 17.77 ซึ่งผู้ชายและผู้หญิงมีสุขภาพจิตใกล้เคียงกัน ที่คะแนนเฉลี่ย 31.95 และ 31.66 คะแนน ตามลำดับ และหญิงมีสัดส่วนของผู้มีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไปมากกว่าชายร้อยละ 18.43 และ 17.06 ตามลำดับ

 

          นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานที่มีอายุ 40 – 59 ปี มีสุขภาพจิตดีกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ โดยมีคะแนน 32.12 คะแนน คนกลุ่มนี้มีผู้ที่มีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไปน้อยที่สุด คือร้อยละ 16.35 และสุขภาพจิตสูงกว่าคนทั่วไปมากที่สุด คือร้อยละ 30.16 ส่วนวัยชรา ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นวัยที่มีสุขภาพจิตโดยเฉลี่ยต่ำสุด ที่ 31.44 คะแนน แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของสุขภาพจิตคนทั่วไป แต่วัยนี้มีผู้ที่มีสุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไปมากกว่าวัยอื่นๆ คือ ร้อยละ 21.43

 

          ส่วนข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ มีสุขภาพจิตดีกว่าอาชีพอื่น 33.82 คะแนนโดยมีผู้ที่สุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไปเพียงร้อยละ 9.37 และสุขภาพจิตสูกว่าคนทั่วไป มากกว่าอาชีพอื่นอย่างเห็นได้ชัด ร้อยละ 41.11 ซึ่งอาจเพราะเป็นอาชีพที่มั่นคงและมีรายได้ที่แน่นอน สำหรับอาชีพรับจ้างทั่วไป มีสุขภาพจิตต่ำกว่าอาชีพอื่น 30.38 คะแนน และมีผู้ที่สุขภาพจิตต่ำกว่าคนทั่วไปมากกว่าอาชีพอื่น ร้อยละ 27.25 และสุขภาพจิตสูงกว่าคนทั่วไปน้อยที่สุดคือ ร้อยละ 18.16

 

          อย่างไรก็ตาม พบว่า ความเคร่งศาสนา การปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนา และการมีเวลาให้แก่กันอย่างเพียงพอของสมาชิกในครอบครัว เป็นปัจจัยที่ช่วยให้สุขภาพจิตของคนดีขึ้นตามลำดับของการกระทำนั้นๆ

 

          “แม้ว่าผลการสำรวจจะสะท้อนให้เห็นว่า ในภาพรวมคนไทยยังมีสุขภาพจิตดี แต่เนื่องจากการสำรวจดำเนินการในช่วงเริ่มของภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจดังกล่าวต่อสุขภาพจิตคนไทย อาจจะยังไม่มากนัก แต่ขณะนี้สถานการณ์นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ สสช. จะติดตามสถานการณ์สุขภาพจิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง และจะนำเสนอข้อมูลเป็นระยะๆ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้ในการกำหนดแผนงาน หรือแนวทางในการช่วยเหลือ เพื่อให้คนไทยฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ไปให้ได้และสังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข”

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

 

 

update 15-06-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก

 

Shares:
QR Code :
QR Code